ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ล่าสุด ธปท.ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงอีกครั้ง โดยจะขยายตัวได้เพียง 3% ลดจาก 3.4% ในประมาณการครั้งก่อน และปีหน้าคาดว่าจะขยายตัว 4.7% โดยการปรับลดประมาณการครั้งนี้ มาจากผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งมีผลทำให้เศรษฐกิจลดลง 1.1% และการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ล่าช้าออกไป 1 ไตรมาส เป็นไตรมาสที่ 4 ซึ่งมีผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจลดลงอีก 0.9% ขณะที่ปัจจัยบวก คือ ผลดีจากมาตรการช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ และการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ มีผลประคับประคองต่อเศรษฐกิจ 0.9% รวมทั้ง เศรษฐกิจและการค้าโลกฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ส่งผลให้การส่งออกสินค้าฟื้นตัวได้เร็ว ช่วยได้อีก 0.9% แต่โดยรวมผลจากปัจจัยลบมีมากกว่าปัจจัยบวก
ดยในครั้งนี้ ธปท.ได้ประมาณการเศรษฐกิจไว้กรณีเลวร้ายและกรณีเลวร้ายกว่าด้วย ซึ่งความเสี่ยงสำคัญคือ การระบาดของโควิด-19 ที่ชัดเจนว่าจะกลับมาระบาดอีกเมื่อไรก็ได้, ประสิทธิผลของวัคซีน, การกลายพันธุ์ของไวรัส และแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ช่วงที่ทำประมาณเดือน มี.ค.การระบาดรอบใหม่ที่รุนแรงในขณะนี้ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งเราตั้งสมมติฐานไว้ 2 กรณีคือ กรณีสีส้มและสีแดง โดยกรณีสีส้ม ประมาณการว่า มีการกลับมาระบาดของโควิด-19 ในครึ่งปีหลัง ทำให้การเปิดประเทศล่าช้าไปเป็นปี 65 ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวลงกว่าที่คาดไว้ แต่หากกรณีสีแดงไวรัสกลายพันธุ์รุนแรงจนวัคซีนปัจจุบันใช้ไม่ได้ผล และเกิดระบาดทั่วโลกอีกครั้ง ขณะที่การเปิดประเทศจะเลื่อนไปเป็นปี 66 เศรษฐกิจไทยจะปักหัวตกลงไปต่ำสุดใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ปี 63 อีกครั้ง
โดย ธปท.พร้อมใช้นโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม หากเกิดกรณีเลวร้าย รวมทั้งใช้นโยบายสินเชื่อเพิ่ม ซึ่งสินเชื่อเอสเอ็มอียังคงหดตัว และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่เท่าเทียมกัน ทำให้ต้องมีมาตรการรองรับในส่วนที่ฟื้นช้า ขณะที่สินเชื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ออกมาแทนซอฟต์โลนเดิม 250,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยออกเป็นช่วงๆ ส่วนมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ 100,000 ล้านบาท คาดจะมีการใช้ 30,000-50,000 ล้านบาท ในช่วงแรก
แหล่งข่าว เศรษฐกิจปีนี้เสี่ยงโตต่ำกว่า 3% ธปท.รับโควิดระลอก 3 รุนแรง-มาเร็วกว่าคาด, ไทยรัฐ, 10 เม.ย. 2564