ผลการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมไตรมาส2ปี2564 จำนวน 12 บริษัท มีผลขาดทุนรวม 7,232.58 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน12,132.23 ล้านบาท สาเหตุหลักจากบมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT)ขาดทุนลดลง ขณะที่งวดครึ่งปีแรก มีผลขาดทุน 16,486.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 13,974.94 ล้านบาท
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กสิกรไทย เปิดเผยว่า คาดผลการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมในช่วงไตรมาส3ปี 2564 จะออกมาแย่กว่าไตรมาส2ปีนี้ ซึ่งถือเป็นไตรมาสที่ต่ำสุดของปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่29 จังหวัด ทำให้อัตราการเข้าพัก(occupancy rate)ต่ำกว่าไตรมาส2ที่่ผ่านมา
ขณะที่ธุรกิจโรงแรมที่มีรายได้จากธุรกิจอาหารมาช่วยในไตรมาส2ปีนี้นั้น ในไตรมาส3 รายได้จากธุรกิจอาหารก็ลดลง จากการห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ขายได้แต่ดิลิเวอรี่
ทั้งนี้คาดว่าผลการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมในช่วงไตรมาส4ปี2564 จะเริ่มทยอยฟื้นตัว หากสถานการณ์โควิด-19คลี่คลาย มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง และเริ่มคลายล็อกดาวน์ แต่อาจจะยังคงมีล็อกดาวน์บ้างในบางจุด ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจโรงแรม
สำหรับขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาธุรกิจโรงแรมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีปัญหาขาดสภาพคล่อง เพราะบางโรงแรมที่อาจมีปัญหานั้น ก็ได้แก้ไขโดยการเพิ่มทุนไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัจจุบันธุรกิจโรงแรมมีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจได้เกิน 2 ปี
อย่างไรก็ตามบริษัทแนะนำลงทุนในธุรกิจโรงแรม เพราะเชื่อสถานการณ์จะคลี่คลายได้และธุรกิจท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยแนะซื้อหุ้น MINT เพราะโรงแรมส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศที่มีการฟื้นตัวในช่วงไตรมาส2 และคาดว่าจะดีต่อเนื่อง โดยให้ราคาเหมาะสมที่34.33 บาท ส่วนธุรกิจโรงแรมในประเทศหากราคาปรับตัวลดลงมาแนะนำซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้น
แหล่งข่าว โบรกคาดธุรกิจโรงแรมไตรมาส 3/64 ขาดทุนหนักสุดปีนี้, bangkokbiznews, 17 ส.ค. 2564