บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในเดือนพ.ค. คาดว่าจะมีแรงขายหุ้นไทยออกมาระดับ 20,000-30,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยหลักจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม3-4 พ.ค.และการลดงบดุล (QT) ส่วนปัจจัยการท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวช้านั้น ตลาดได้รับรู้ปัจจัยดังกล่าวไปแล้ว
ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาได้ในเดือนพ.ค.ที่ระดับเกิน 400,000 คน อยู่ที่ระดับ 500,000-600,000 คน ยังเป็นอัพไซด์ให้ตลาดหุ้นไทย และมีผลทำให้เงินบาทหยุดอ่อนค่าและการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในปีนี้ลดลง เป็นปัจจัยสำคัญทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอแรงขายและมีโอกาสพลิกกลับมาเป็นซื้อสุทธิชัดเจนในปีนี้
โดยคาดว่าในช่วงครึ่งเดือนแรกของพ.ค.จะแกว่งตัวลงในกรอบ 1,630-1,650 จุด แต่ในช่วงครึ่งปีหลังของเดือนพ.ค. คาดดัชนี มีโอกาสปรับตัวขึ้น จากมาตรการเปิดการท่องเที่ยว ซึ่งหากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเดินทางเข้ามาได้ตามคาดหนุนดัชนีน่าจะยืนแนวต้านที่ 1,690 จุด บวกลบได้
โดยกลยุทธ์การลงทุนเดือนพ.ค.นี้ แนะว่า ช่วงครึ่งแรกของเดือนนี้ หยุดการลงทุนและเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเมื่อดัชนีแตะระดับ 1,610-1,630 จุด เป็นโอกาสเข้าสะสม หุ้นกลุ่มคุณภาพ มีกระแสเงินสดสภาพคล่องสูง กำไรเติบโตสม่ำเสมอเฉลี่ยปีละ 10-15% ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยเสี่ยงสงครามรัสเซียกับยูเครนและการลดงบดุลของเฟด มีปันผลเฉลี่ย 6-7% เช่นบมจ. ไดนาสตี้เซรามิค (DCC),ธนาคารเกียรตินาคินภัทร(KKP) ,ธนาคารกรุงไทย(KTB),บมจ.บริทาเนีย (BRI)
แหล่งข่าว โบรกลุ้น”นักท่องเที่ยวต่างชาติ”เข้าไทย พ.ค.นี้ ทะลุ4แสนคน หนุนฟันด์โฟลว์, bangkokbiznews, 04 พ.ค. 2565