นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ลายงานวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ได้ปรับเพิ่มกำไรปี 2564 ของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลมาอยู่ที่ 1.38 หมื่นสำนบาท โต 24.6% จากปีก่อนที่มีกำไร 1.1 1 หมื่นล้านบาท จากเดิมคาดว่ากำไร 1.36 หมื่นล้นบาท โดยหลักมาจากการปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรโรงพยาบาลที่มีรายได้จากประกันสังคม (โรงพยาบาลประกันสังคม) ภายหลังผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2564 เดิบโตเด่น
ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2ปี 2564 คาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสที่กำไรสุทธิจะทำจุดสูงสุด (นิวไฮ) เพราะได้ปัจจัยหนุนจากรายได้ที่มีความเกี่ยวข้องกับโควิด-19 ไต้แก่ บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) ปรับขึ้น 14.7% มาอยู่ที่ 1,042 ล้านบาท เติบโต 18.9%, บมจ.บางกอก เชนฮอสปิทอล (BCH) ปรับขึ้น 13.5% มาอยู่ที่ 1,473 ล้านบาท เติบโต 19.9% และ บมจ.โรงพยาบาลราชธานี (RJH) ปรับขึ้น 5.7% มาอยู่ที่ 426.7 ล้านบาท เติบโต 3.6% แต่ความโดนเด่นของโรงพยาบาลประกันสังคมจะเริ่มลดลงในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 เพราะการกระจายและการฉีดวัคซีนในไตรมาส 3 ปี 2564
ขณะที่โรงพยาบาลที่มีรายได้จากเงินสด (โรงพยาบาลเงินสด) ไต้แก่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS), บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9) และ บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) นอกจากรายได้จากการจำหน่ายวัคซีนโควิด- 19 จะมีรายได้จากการทยอยกลับมาของผู้ป่วยต่างประเทศ (Fly-in) กลับเข้ามาในช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 ต่อเนื่องไปยังปี 2565
ดังนั้น สำหรับการลงทุนให้น้ำหนัก หุ้นโรงพยาบาลประกันสังคม "เท่ากับตลาต" (Neutral) เพราะราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาเร็ว สะท้อนประเด็นบวกไปมากแล้ว จึงแนะนำซื้อโรงพยาบาลเงินสดที่ราคาหุ้นยังปรับขึ้นไม่มาก (แลกการ์ด) แต่เริ่มเห็นการฟื้นตัวและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องไปยังปี 2565 โดยแนะนำซื้อ BDMS ราคาเหมาะสม 24 บาทต่อหุ้น
แหล่งข่าว โบรกฯ อัพกำไรหุ้นโรงพยาบาลปี 64 ‘โควิด’ หนุนรายได้พุ่ง, bangkokbiznews, 31 พ.ค. 2564