ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) วานนี้ (14 มิ.ย.) เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าและทำจุดสูงสุดที่ 3.52 บาท เพิ่มขึ้น 18.91% ก่อนจะย่อตัวมาปิดที่ 3.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.42 บาท หรือ 14.19%และ บมจ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JTS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยราคาขึ้นแรงเช่นกัน ทำจุดสูงสุดที่ 20.80 บาท เพิ่มขึ้น 25.30% ก่อนที่จะย่อมาปิดที่ 18.40 บาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การปรับขึ้นของหุ้น JAS และ JTS คาดว่าเป็นการเก็งกำไรจากกระแสข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัท ภายหลัง JAS มีรายงานเกี่ยวกับการปรับปรุงการคำนวณค่าใช้จ่ายของบริษัท ซึ่งจะหนุนให้ต้นทุนค่าตัดจำหน่ายลดลงปีละประมาณ 500-700 ล้านบาท จากปี 2563 ที่บริษัทเผชิญผลขาดทุน 3,125.75 ล้านบาท จากการบังคับใช้มาตรฐานทางบัญชีใหม่ที่ส่งผลให้บริษัทมีการบันทึกค่าใช้จ่ายตัดจำหน่ายที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ผลขาดทุนทางบัญชี เดิมนักวิเคราะห์คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะสามารถพลิกกลับมาทำกำไร แต่หากเป็นไปตามรายงานข่าวที่บริษัทสามารถปรับปรุงการบันทึกบัญชีทางบัญชีเพื่อลดค่าใช้จ่ายต่อปี จะช่วยให้ผลการดำเนินงานของบริษัทกลับมามีกำไรได้เร็วกว่าที่ตลาดคาดเอาไว้ และจะส่งผลให้บริษัทสามารถกลับมาจ่ายปันผลได้ จากในอดีตหุ้น JAS เป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลโดดเด่น
อย่างไรก็ดี สำหรับ JTS ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน รวมถึงปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งธุรกิจวงจรสื่อสารระหว่างประเทศยังชะลอตัวลงต่อเนื่อง จึงมองราคาหุ้นวานนี้ที่ปรับขึ้นกว่า 10% เป็นการปรับขึ้นอย่างไม่สมเหตุสมผล โดยกลยุทธ์การลงทุน ไม่แนะนำลงทุนทั้ง 2 บริษัท เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว อีกทั้งกระแสข่าวหนุน JAS ยังไม่มีการยืนยันจากบริษัทอย่างเป็นทางการ ส่วน JTS ปรับขึ้นโดยไม่มีปัจจัยสนับสนุน
แหล่งข่าว โบรกฯ เตือนหุ้นแม่ลูก JAS-JTS ราคาพุ่งแรงเกินพื้นฐาน, bangkokbiznews, 15 มิ.ย. 2564