นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย ) กล่าวว่า คาดแนวโน้มนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง มีโอกาสซื้อสุทธิเกิน 1 แสนล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ต้นปีถึง15 ก.พ.2565 ต่างชาติซื้อสุทธิรวมแล้ว 6.45 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ปัจจัยทำให้นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเติบโตที่ดี เฉลี่ยที่ 4% และอัตราเงินเฟ้อของไทยปีนี้ปรับตัวเพิ่นขึ้นแต่คาดจะไม่ถึง 2% ทำให้ไทยไม่มีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ และหุ้นไทยส่วนใหญ่เป็นหุ้น Old Economy ซึ่งจะปรับตัวขึ้นดีเมื่อเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจฟื้นตัว ทำให้ตลาดหุ้นไทยเป็น “เซฟเฮฟเว่น” และค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้นักลงทุนต่างชาติได้ประโยชน์ 2 ต่อจากค่าเงินบาท และส่วนต่างชาติราคาหุ้น
สำหรับหุันแนะนำลงทุน จะเป็นหุ้นกลุ่มเป้าหมายที่ต่างชาติ และราคายังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ เช่น ธนาคารกรุงเทพ (BBL),ธนาคารกสิกรไทย(ฺKBANK),บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) , บมจ.ปตท.(PTT) ฯลฯ
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า สำหรับกระแสเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่ไหลเข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีถึง 15 ก.พ.65 ปัจจุบันราว 6.45 หมื่นล้านบาท มองว่ายังมีโอกาสนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิแตะระดับ 1 แสนล้านในครึ่งแรกปีนี้
ทั้งนี้เม็ดเงินลงทุนยังคงไหลเข้าในกลุ่มหุ้นค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง ไอซีที ธนาคาร ซึ่งเป็นหุ้น Domestic Play หรือหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจในประเทศ จะได้ประโยชน์จากกระแสฟันด์โฟลว์รอบนี้
อย่างไรก็ตามแนะนำว่า รอบนี้ให้ติดตามทิศทางค่าเงินบาทเป็นหลัก หากปรับตัวอ่อนค่าแตะที่ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ คาดว่าจะจบรอบได้ และประเมินว่าหากในเดือนมี.ค. เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้ง แต่ไม่มีการลดงบดุล ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสสูงมาก ปรับขึ้นทดสอบบริเวณเหนือ 1,730 จุด
แหล่งข่าว โบรกเกอร์คัดหุ้นเด็ด รับกระแส ‘ฟันด์โฟลว์’ ครึ่งแรกปีนี้ ลุ้นแตะแสนล้าน, bangkokbiznews, 17 ก.พ. 2565