แหล่งข่าวบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) เปิดเผยว่า คาดว่ามูลค่าขายชอร์ต (ชอร์ตเซล) ปี 2565 จะทำสถิติสูงสุดใหม่อยู่ที่ 1.7 - 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 20-30% จากปี 2564 อยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาท โดยครึ่งปีแรก 2565 มีมูลค่า 8.54 แสนล้านบาท ซึ่งเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ ประมาณ 7 พันล้านบาท
โดยสาเหตุทำให้มูลค่าชอร์ตเซลปีนี้ปรับตัวสูง เพราะทิศทางหุ้นไทยผันผวน จากมีหลายปัจจัยลบกดดัน เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ราคาน้ำมัน และเงินเฟ้อสูง สงครามรัสเซีย ยูเครน ยังไม่จบ ดังนั้น ทำให้เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นก็จะมีแรงขายออกมา
รวมถึงการที่โบรกเกอร์ต่างๆ มีการออกผลิตภัณฑ์การเงินมากขึ้น เช่น การซื้อขายรายใหญ่ (Block Trade) ,ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) ที่โบรกเกอร์ออกในฝั่ง Put ทำให้โบรกเกอร์จะต้องมีการป้องกันความเสี่ยงโดยการทำชอร์ตเซล จึงเป็นอีกแรงหนุนที่จะทำให้ธุรกรรมชอร์ตเซลปรับตัวเพิ่มขึ้น
สำหรับแนวโน้มช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 คาดว่ามูลค่าการซื้อขายต่อวัน มีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดของปีนี้ได้ ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท ในเดือนมิ.ย. ซึ่งต้นเดือนก.ค. มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 6,000-7,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจุบันมูลค่าชอร์ตเซลเทียบกับมูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยโดยรวมปรับขึ้นมาจะอยู่ที่ 10% มูลค่าการซื้อขายรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงก.ค.นั้นไม่มากเฉลี่ยอยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาทต่อวัน เนื่องจากทิศทางตลาดหุ้นไทยมีทิศทางผันผวนแรง คาดมีโอกาสมูลค่าขายชอร์ตอยู่ที่กว่า10,000 ล้านบาทต่อวัน
สำหรับหุ้นที่ถูกขายชอร์ตมากสุด ในปี 2565 (4 ม.ค.-11 ก.ค.) 5 อันดับ 1.บมจ.ปตท. (PTT) 34,602.03 ล้านบาท 2. บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP-R) 25,330.88 ล้านบาท 3. บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT-R ) 21,041.71 ล้านบาท 4. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) 21,030.98 ล้านบาท และ 5. บ้านปู (BANPU)17,811.21 ล้านบาท
แหล่งข่าว โบรกเกอร์ คาด ชอร์ตเซลปี 65 นิวไฮ 1.8 ล้านล้านบาท เหตุ หุ้นไทยผันผวนขาลง , bangkokbiznews, 14 ก.ค. 2565