นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 2 ปี 2565 อาจปรับตัวลดลงเป็นตัวเลขหลักเดียว หากเทียบกับไตรมาส2ปี 2564 และจากไตรมาส 1ปี 2565 สาเหตุหลักมา2 ปัจจัยกดดัน คือ ฐานกำไรงวดไตรมาส 2 ปี 2564 อยู่สูงที่ 274,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเกิดจากมีบริษัทขนาดใหญ่มีกำไรพิเศษรวมเข้ามา เช่น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)หรือ PTTGC, และธนาคารกรุงศรี (BAY)
ปัจจัยที่ 2 คือ ปัญหาเงินเฟ้อ ที่เร่งตัวขึ้น รวมถึงมาตรการภาครัฐทยอยหมดลงเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1 ปี 2565 ทำให้กำไรบจ.มีโอกาสปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส1 ปี 2565 อยู่ 281,000 ล้านบาท เพราะไตรมาส1 มักเป็นช่วงไฮซีซัน
เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง และทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ที่กดดันการลงทุนในเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ เรายังคงแนะนำ ถือเงินสดสัดส่วน 30% ของพอร์ตลงทุน ยังเป็นระดับที่เหมาะสม หากระดับดัชนีต่ำกว่า 1,570 จุด สามารถทยอยเข้าสะสมได้ ในหุ้นที่มีผลประกอบการที่ดี และหากระดับดัชนีสูงกว่า 1,576จุด สามารถขายหุ้นเพื่อทำกำไร”
สำหรับไตรมาส 2ปี 2565 อุตสาหกรรมที่โตทั้งไตรมาสเดียวกันปีก่อนและไตรมาส1ปี 2565 ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON) เงินทุนและหลักทรัพย์ (FIN) ท่องเที่ยว (TOURISM) บริการรับเหมาก่อสร้าง (CONS) สื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA) ส่วนกลุ่มที่ปรับตัวลงทั้งไตรมาสเดียวกันปีก่อนและไตรมาส1ปี 2565 ได้แก่ ธนาคาร (BANK) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (PETRO) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)ฯลฯ
แหล่งข่าว โบรกแนะกลยุทธ์ลงทุน รับมือ "กำไรบจ." ไตรมาส2/65ส่อวูบ, bangkokbiznews, 5 ก.ค. 2565