ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 พ.ค.64 ปิดที่ 1,568.58 จุด เพิ่มขึ้น 16.73 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 88,951.30 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,213.34 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 124 บาท บวก 5.50 บาท, PTTGC ปิด 62.50 บาท ลบ 1.75 บาท, DELTA ปิด 554 บาท บวก 52 บาท, KTC ปิด 83.00 บาท บวก 5.50 บาท และ SCGP ปิด 56.75 บาท ลบ 1.25 บาท
หุ้นไทยดีดขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นโลกจากความคาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ดันราคาน้ำมันสูงขึ้น จากการคาดการณ์ความต้องการใช้สูงขึ้น ส่งผลดีต่อราคาหุ้นพลังงาน
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) Update หุ้นกลุ่มยาง ระบุว่า การส่งออกยางพารา, ยางล้อ และถุงมือยาง ที่มีมูลค่าการส่งออกที่เติบโตสูง YoY ในเดือน เม.ย.2564 สะท้อนภาพบวกชัดเจนของอุตสาหกรรมที่มีความต้องการสูงจากเดิมที่มีเพียงถุงมือยางเท่านั้นที่โตสูง จึงคงมุมมองบวกและประเมินว่าเพิ่งเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นขาขึ้นของธุรกิจยางธรรมชาติ และยางล้อ แนะนำ “สะสม” หุ้น STA-NER
นอกจากนี้ ยัง Update หุ้น ROJNA ภาพการเติบโตในระยะ กลาง-ยาว น่าสนใจ จากการเข้าลงทุนในธุรกิจ EV Battery รวมทั้ง การรับรู้รายได้ธุรกิจไฟฟ้าตามสัดส่วนมากขึ้น มองราคายังต่ำ BV ที่ 7.44 บาท และคาดว่ายอดขายที่ดิน จะเร่งตัวขึ้นจาก Supply Chain ธุรกิจรถยนต์ที่เคลื่อนย้ายมายังนิคมของบริษัท จากอานิสงส์ของแผนลงทุนธุรกิจ EV Battery
ประเมินว่าแผนลงทุนรอบใหม่ของบริษัทในการเข้าสู่ธุรกิจ EV Battery จะสนับสนุนการเติบโตระยะยาว และเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ นอกจากนั้น จุดเด่นของบริษัท คือ มีรายได้จากธุรกิจ Recurring income ในระดับสูง เป็นกระแสเงินสดที่มั่นคง ROJNA ซื้อขายที่ระดับ 0.88 เท่าของ BV เทียบกับ AMATA ที่ 1.3 เท่า และ WHA ที่ 1.5 เท่าทางเทคนิคให้แนวต้าน 7.00 บาท และ 7.25 บาท
ส่วน บล.ธนชาต คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น UTP ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 32 บาท โดยมีหลายปัจจัยหนุนการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจ คาดกำไรจะโต 13% และ 28% ในปี 2021-22F ดังนี้ 1.อัตรากำไรจะขยายตัว จาก demand ที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ราคาขายปรับขึ้นได้ดีกว่าต้นทุน 2.ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น ทั้งปีนี้และปี 2022-23F หนุนยอดขายโต 3.การลงทุนสายการผลิตที่ 3 จะเพิ่ม upside อย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มกำลังผลิต มากกว่า 2 เท่าจากปัจจุบัน!!
แหล่งข่าว โฟกัสหุ้นรายตัว!!, ไทยรัฐ, 26 พ.ค. 2564