หุ้นเอเชียร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากการเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในฮ่องกงที่กินเวลานาน และจำนวนผู้ที่เชื้อที่เพิ่มขึ้นกระตุ้นอารมณ์กลัวความเสี่ยง กดดันราคาน้ำมัน และหนุนพันธบัตรและดอลลาร์
การเปลี่ยนแปลงอย่างน่าประหลาดใจจากผู้กำหนดนโยบายของจีนยังจุดชนวนให้หนี้จีนพุ่งสูงขึ้นและส่งผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน
ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นร่วงลง 1% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม Nikkei ร่วงลง 0.6% และฟิวเจอร์ส S&P 500 ร่วงลง 0.3% ดัชนี Hang Seng ลดลง 1.9% ต่อเนื่องเป็นเซสชั่นที่แปด โดยTencent, Meituan และ Alibaba เป็นผู้นำ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลต้ายังผลักดันจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ทางด้านนโยบาย เฟด ยืนยันว่ากำลังจับตาดูอัตราเงินเฟ้ออย่างระมัดระวังและพร้อมที่จะดำเนินการหากจำเป็น ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทน 2 ปีและ 10 ปีของสหรัฐแตะระดับแคบที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ในชั่วข้ามคืน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้น S&P 500 และ Nasdaq ต่างทำสถิติปิดสูงสุดครั้งใหม่
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมากในการค้าขายในเอเชียช่วงแรก โดยกลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้กับดอลลาร์นิวซีแลนด์ที่ 0.6986 ดอลลาร์ ขณะที่เงินยูโรอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนของวันพุธที่ 1.1786 ดอลลาร์ เยนแข็งค่าที่ 110.56 ต่อดอลลาร์
น้ำมันอ่อนตัวเป็นวันที่สามท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่เพิ่มขึ้นหลังจากการเจรจาล้มลงในสัปดาห์นี้ ฟิวเจอร์สเบรนต์ร่วงลง 0.5% ที่ 73.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 0.6%
แหล่งข่าว Virus woes and tech crackdown hammer stocks; bonds rally โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand