นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า กระแสเงินลงทุน (ฟันด์โฟลว์) ของนักลงทุนต่างประเทศ เริ่มมีแนวโน้มไหลเข้าตลาดหุ้นไทยชัดเจน โดยคาดว่าได้ปัจจัยหนุนจาก 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. ภาวะตลาดหุ้นที่เป็นขาขึ้นชัดเจน จากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว 2. แผนการกระจายวัคซีนมีความชัดเจนมากขึ้น และมีความคืบหน้าในของจำนวนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน 3. ค่าเงินบาทแข็งค่า และ 4. แนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมาส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น
ขณะที่ในระยะถัดไปประเมินฟันด์โฟลว์มีโอกาสไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงต้นปีถึงปัจจุบันดัชนีหุ้น SET (SET Index) จะบวกขึ้นมาแล้วกว่า 10% แต่ยังปรับขึ้นได้ไม่โดดเด่น (Underperform) มากนัก หากเทียบกับตลาดหุ้นต่างประเทศที่ดัชนีปรับขึ้นสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 (ปี 2562) ไปมากแล้ว นอกจากนี้ คาดว่ากระแสเงินลงทุนมีโอกาสไหลเข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญหากจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็ม 2 ในกรุงเทพฯ ปรับขึ้นแตะระดับ 50-60% จากปัจจุบันที่ 20% และการเปิดเมืองทำได้ตามแผน
อย่างไรก็ดี คาดการณ์ดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไม่เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ และไม่มีการกลายพันธุ์ของเชื้อสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเติม
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า คาดการณ์ฟันด์โฟลว์จะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างน้อย 4 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่ไหลเข้ามาซื้อสุทธิสะสม (23-31 ส.ค.) ราว 1.9 หมื่นล้านบาท โดยได้ปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า และยากที่จะกลับไปอ่อนค่าได้มากเท่าช่วงที่ผ่านมา ภายหลังปัจจัยพื้นฐานของประเทศ ได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัด และดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้าย ติดลบน้อยลง อย่างไรก็ดี ระยะสั้นอาจถูกกระทบจากผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงประเด็นการเมืองในประเทศ
แหล่งข่าว ‘ฟันด์โฟลว์’ จ่อซบหุ้นไทย เหตุต่างชาติพลิกเชื่อมั่น, bangkokbiznews, 02 ก.ย. 2564