นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดวันนี้(29ต.ค.) ที่ระดับ 33.19 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.30 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.10-33.30 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และโฟลว์ขายทำกำไรทองคำ ซึ่งเราคาดว่าผู้เล่นต่างรอคอยที่จะขายทำกำไร หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้านแถว 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี เงินบาทอาจเผชิญความผันผวนได้จากแรงขายทำกำไรหุ้นไทยออกมาบ้าง เนื่องจากเราเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติอาจชะลอการลงทุนในไทยไปก่อน จนกว่าจะมองภาพการฟื้นตัวเศรษฐกิจหลังการทยอยเปิดประเทศในเดือนหน้า ได้อย่างชัดเจนก่อน ทำให้โดยรวมฟันด์โฟลว์จากนักลงทุนต่างชาติยังมีความผันผวน
ทั้งนี้ แนวต้านสำคัญของเงินบาทยังอยู่ในโซน 33.40-33.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ผู้ส่งออกบางส่วนต่างรอขายเงินดอลลาร์อยู่ ส่วนผู้นำเข้าบางส่วนก็รอทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ หากเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้ เงินบาทยังมีแนวรับสำคัญที่โซน 32.90-33.00 บาทต่อดอลลาร์
ตลาดการเงินโดยรวมเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงต่อ จากแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะในฝั่ง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่รายงานผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาดนั้น ได้ช่วยหนุนให้ ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นราว +1.0% ส่วนหุ้นเทคฯ ก็ปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้า ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวขึ้นกว่า +1.4% ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้น ได้สะท้อนว่าผู้เล่นในตลาดต่างให้น้ำหนักปัจจัยผลประกอบการมากกว่าข้อมูลเศรษฐกิจ หลังจากที่ อัตราการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาสที่ 3 ชะลอตัวลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเศรษฐกิจโตเพียง +2.0% จากไตรมาสก่อนหน้า น้อยกว่าที่ตลาดประเมินไว้ที่ +2.7% และเป็นการชะลอตัวหนักจากที่โตกว่า +6.7% ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นผลมาจากการปัญหาการระบาดของเดลต้า รวมถึงปัญหาด้าน Supply Chain
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX50 รีบาวด์ขึ้น +0.3% หนุนโดยรายงานผลประกอบการของบริษัทโดยรวมที่ยังออกมาดี แม้ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเน้นย้ำจุดยืนที่จะปรับลดการทำคิวอี ผ่านโครงการ PEPP นอกจากนี้ ประธาน ECB ยังได้ระบุว่า ปัญหาเงินเฟ้อ รวมถึงปัญหาด้าน Supply Chain ที่หนุนให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นนั้นอาจอยู่กับตลาดการเงินได้ยาวนานกว่าที่เคยประเมินไว้ ทำให้ ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ยังคงมองว่า แนวโน้มเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นและอยู่ในระดับสูงนานกว่าคาด อาจทำให้ ECB ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ในปีหน้า ซึ่งภาพดังกล่าวได้หนุนให้ เงินยูโร (EUR) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ แตะระดับ 1.168 ดอลลาร์ต่อยูโร
แหล่งข่าว ‘เงินบาท’วันนี้เปิด’แข็งค่า’ที่33.19บาทต่อดอลลาร์, bangkokbiznews, 29 ต.ค. 2564