สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร ถึงแม้โควิด-19 ใกล้จะสงบ แต่ภารกิจผู้นำไม่มีวันสลาย “กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล” ประธาน Kasikorn Business-Technology Group (KBTG) บริษัทเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย บอกว่า สถานการณ์โควิด-19 เป็นช่วงเวลาอันหนักหน่วง ที่ฮีโร่ทุกคนกำลังถูกวิกฤตบีบคั้น แต่มันก็จะหล่อหลอมภาวะผู้นำให้โดดเด้งขึ้นมาท่ามกลางวิกฤต
“วิกฤตจะสะท้อนด้านที่ดีที่สุดออกมา ถ้าผู้นำสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ จะดึงพลังคนและองค์กรออกมามหาศาล ต่อให้โควิด-19 จบไปแล้ว ก็ให้เราต่อสู้เหมือนกับเราอยู่ท่ามกลางหายนะโควิด-19 ในทุกๆ วัน เพราะการเปลี่ยนแปลงองค์กรไม่มีวันสิ้นสุด”
เขาผ่านร้อนผ่านหนาวในศึกสงครามแห่งการเปลี่ยนแปลงนับครั้งไม่ถ้วน จากการใช้เวลาช่วงหนึ่งของชีวิตอยู่ที่ Silicon Valley เมืองหลวงแห่งนวัตกรรม แหล่งกำเนิดซูเปอร์สตาร์อย่าง Google, Apple, Yahoo, Instagram, Snapchat, Uber และยูนิคอร์นอีกฝูงใหญ่
ทำงานในตำแหน่ง Product Marketing Manager (Global Lead) Google Earth/Ocean/Moon/Mars/Sky บริษัทกูเกิล สำนักงานใหญ่
เมื่อก้าวจังหวะชีวิตสุกงอม เขาก็เดินทางกลับเมืองไทย เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตอีกครั้ง
หลากหลายมุมมองความคิดของการสร้างภาวะผู้นำ ที่เขาบรรยายไว้ในหัวข้อ Leadership with Learning Strategy : Going Beyond the Future of Work ในงาน Learning Development Forum 2021 (virtual conference) จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (PMAT) เมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
“ตอนปี 2019 เคยคาดการณ์กันว่า องค์กรจะค่อยๆ เกิด disruption domino ในธุรกิจต่างๆ คือภาวะชะงักงันที่ไล่ตามๆ กันมา แต่พอโควิด-19 เข้ามา สิ่งที่เกิดขึ้นทันทีเลยก็คือ โดมิโนล้มทุกตัว และจากนี้ไปจะเกิดดิสรัปชั่นต่อเนื่องราวกับลูกคลื่น”
อะไรอยู่ข้างหน้าพวกเราหลังปี 2021?
ในอีก 10 ปีข้างหน้า จะเกิดจุดหักศอกขนานใหญ่ 2 ครั้ง หลังจากนั้นจะเกิดการยกเครื่องใหม่ในระบบเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะใช้เวลาอีกราว 10-15 ปีข้างหน้า ตอนนี้องค์กรอยู่ในช่วงที่ต้องเร่งสร้างการเปลี่ยนแปลง transformation ในยุคที่ Covid-19 เป็นผู้บริหารระดับ C level เปรียบได้กับมหาวายร้าย “ธานอส” ตัวละครดังจากหนังสือการ์ตูนมาร์เวลคอมิกส์ ผู้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วจักรวาลมาร์เวล
“บริษัทต้องเร่งเครื่องทรานส์ฟอร์มมหาศาล เพราะเราอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับภูมิภาคเอเชีย ที่กำลังเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดโลก เรียกได้ว่าเราอยู่ถูกที่ถูกเวลา”
“Nick Nash, venture capital” บอกว่า บริษัทกำลังบ่ายโฉมหน้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเหล่านี้กำลังเข้าสู่ยุคทอง
ดังนั้นสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงเวลานี้คือ การผลักองค์กรให้ไปอยู่ในแกนกลางพายุ ที่ทุกองค์กรต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และต้องสร้างองค์กรแห่งการเปลี่ยนผ่าน เพราะอีก 10 ปีข้างหน้า เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดขององค์กร ที่สามารถปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
และในอีก 10 ปีข้างหน้านี้ บรรดากลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ ยูนิคอร์นจะไม่ cool อีกแล้ว เพราะมีม้ามืดตัวใหม่ แห่มาเพิ่มอีก 20 ตัว
ทรานส์ฟอร์มเป็นเรื่องยากเอามากๆ ต้องเริ่มจากแก่นใน จะมาทำแบบผิวเผินไม่ได้ และต้องเริ่มจากด้านบนก่อนเสมอ ไม่ได้เริ่มจาก HR แต่เริ่มจากผู้บริหารตระกูล C ที่ต้องมีความตระหนักถึงวิกฤตที่เกิดขึ้น พอวิกฤตแล้ว ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และทรานส์ฟอร์มองค์กรไปพร้อมๆ กันในทุกวัน องค์กรต้องลุกขึ้นมาหมั่นซ้อม เพราะโลกอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีดิสรัปเข้ามาไม่หยุดหย่อน
ทำไมองค์กรต้องทรานส์ฟอร์ม? ถ้าตอบเหตุผลทางยุทธศาสตร์ คือการส่งสารให้ทุกคนเดินไปพร้อมกัน
“หน้าที่ผู้นำหลังโควิด-19 หนักหน่วงมาก ต้องเป็นผู้นำแนวคิดใหม่ ต้องทำกลยุทธ์หลังโลกใหม่ โลกหลังโควิด-19 เปลี่ยนไปมหาศาลแน่นอน ตอนนี้ทุกอย่างทำได้หมด ทำให้เกิดธุรกิจส่งอาหาร ตอนนี้ home economy กำลังเติบโต คนทำทุกอย่างจากที่บ้าน โลกใหม่ ภูมิทัศน์ใหม่ เปลี่ยนไปมหาศาล
ผู้นำต้องวางสถาปัตยกรรมองค์กร ออกแบบโครงสร้างองค์กร มีความรู้ความสามารถ มีระบบบริหารจัดการ เป็น Chief Culture Officer หัวหน้าทีมบริหารวัฒนธรรมองค์กร เพราะวัฒนธรรมเป็นแก่น เป็นเส้นเลือด เป็นจิตวิญญาณ ให้ร่างกายขยับ”
วัฒนธรรมที่ดีต้องเริ่มจากเบื้องบน ต้องมองเห็นเลาๆ ว่า โลกจะเป็นอย่างไรต่อไป? อย่าใช้วิธีตัดแปะ ไปเอาวัฒนธรรมของเน็ตฟลิกซ์มาโมดิฟาย หรือแอบไปดึงเอากลยุทธ์จากอเมซอนมา เพราะจะทำให้องค์กรของเรากลายเป็น “ผีดิบแฟรงเกนสไตน์” ในบัดดล
ดังนั้นแล้ว หาให้ได้ว่าเหตุผลของการดำรงอยู่ในโลกใหม่คืออะไร? หาให้เจอ อย่าไปก๊อปปี้ เพราะทุกอย่างมันต้อง fit ในแบบของคุณเอง
การเปลี่ยนแปลงองค์กร ต้องเริ่มจากภูมิทัศน์ เชื่อมด้วยระบบภาวะผู้นำ ภาวะผู้นำเท่านั้นถึงจะทำให้เกิดทรานส์ฟอร์มขององค์กรได้ คิดสิคิด! ทำไมองค์กรของคุณต้องดำรงอยู่หลังโลกใหม่?
การทรานส์ฟอร์มต้องทำทุกส่วนไปพร้อมกัน ทั้งโมเดล กลยุทธ์ วัฒนธรรมองค์กร โครงสร้างองค์กร ระบบบริหารจัดการ และมันต้องเข้าพวกกัน โดยถามตัวเองว่า มันสอดคล้องกับกลยุทธ์ และโมเดลของคุณหรือเปล่า? จากนั้นจึงเอาเทคโนโลยีมาใส่เพื่อทรานส์ฟอร์ม ทุกอย่างต้องคิดเป็นระบบ
ข้อคิดสำหรับผู้นำคือ คุณต้องมีดีไซน์ มี inner passion อยู่เต็มหัวใจ เพราะยิ่งอยู่ระดับสูง จุดอ่อนจะยิ่งขยายมหาศาล ถ้าคุณสื่อสารห่วย ยิ่งนำการเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าใด จะไปแตะคนมหาศาล
สิ่งสำคัญคือ ต้องตระหนักเสมอว่า ตัวคุณมีจุดอ่อนอะไร? จะปิดจุดอ่อนได้อย่างไร? เพราะยิ่งทรานส์ฟอร์ม จุดอ่อนจะยิ่งขยายเป็นวงใหญ่
“ในโลกใบใหม่ จุดแข็งจะกลายเป็นจุดอ่อนเฉยเลย บางคนเก่งวางยุทธศาสตร์ 5 ปี แต่โลกใหม่ไม่มีหรอกยุทธศาสตร์ 5 ปี ต่อให้ 3 ปียังยาวเกินไปเลย โลกยุคใหม่ต้องการคนเก่งมาอยู่รวมกัน สร้างระบบนิเวศทางธุรกิจร่วมกัน”
ขณะเดียวกัน ผู้นำอย่าสร้างคนที่คิดเหมือนๆ กันใน comfort zone ต้องหาคนที่กล้าถกเถียง กล้าเผชิญหน้า จะได้เอามาเติมเต็มซึ่งกันและกัน และวัฒนธรรมองค์กรที่ดี จะสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมในทีมของผู้นำอีกด้วย
แหล่งข่าว ‘โควิด-19’ ใกล้จบ แต่ผู้นำไม่มีวันจบ, bangkokbiznews, 06 ก.ย. 2564
“วิกฤตจะสะท้อนด้านที่ดีที่สุดออกมา ถ้าผู้นำสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ จะดึงพลังคนและองค์กรออกมามหาศาล ต่อให้โควิด-19 จบไปแล้ว ก็ให้เราต่อสู้เหมือนกับเราอยู่ท่ามกลางหายนะโควิด-19 ในทุกๆ วัน เพราะการเปลี่ยนแปลงองค์กรไม่มีวันสิ้นสุด”
เขาผ่านร้อนผ่านหนาวในศึกสงครามแห่งการเปลี่ยนแปลงนับครั้งไม่ถ้วน จากการใช้เวลาช่วงหนึ่งของชีวิตอยู่ที่ Silicon Valley เมืองหลวงแห่งนวัตกรรม แหล่งกำเนิดซูเปอร์สตาร์อย่าง Google, Apple, Yahoo, Instagram, Snapchat, Uber และยูนิคอร์นอีกฝูงใหญ่
ทำงานในตำแหน่ง Product Marketing Manager (Global Lead) Google Earth/Ocean/Moon/Mars/Sky บริษัทกูเกิล สำนักงานใหญ่
เมื่อก้าวจังหวะชีวิตสุกงอม เขาก็เดินทางกลับเมืองไทย เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตอีกครั้ง
หลากหลายมุมมองความคิดของการสร้างภาวะผู้นำ ที่เขาบรรยายไว้ในหัวข้อ Leadership with Learning Strategy : Going Beyond the Future of Work ในงาน Learning Development Forum 2021 (virtual conference) จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (PMAT) เมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
“ตอนปี 2019 เคยคาดการณ์กันว่า องค์กรจะค่อยๆ เกิด disruption domino ในธุรกิจต่างๆ คือภาวะชะงักงันที่ไล่ตามๆ กันมา แต่พอโควิด-19 เข้ามา สิ่งที่เกิดขึ้นทันทีเลยก็คือ โดมิโนล้มทุกตัว และจากนี้ไปจะเกิดดิสรัปชั่นต่อเนื่องราวกับลูกคลื่น”
อะไรอยู่ข้างหน้าพวกเราหลังปี 2021?
ในอีก 10 ปีข้างหน้า จะเกิดจุดหักศอกขนานใหญ่ 2 ครั้ง หลังจากนั้นจะเกิดการยกเครื่องใหม่ในระบบเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะใช้เวลาอีกราว 10-15 ปีข้างหน้า ตอนนี้องค์กรอยู่ในช่วงที่ต้องเร่งสร้างการเปลี่ยนแปลง transformation ในยุคที่ Covid-19 เป็นผู้บริหารระดับ C level เปรียบได้กับมหาวายร้าย “ธานอส” ตัวละครดังจากหนังสือการ์ตูนมาร์เวลคอมิกส์ ผู้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วจักรวาลมาร์เวล
“บริษัทต้องเร่งเครื่องทรานส์ฟอร์มมหาศาล เพราะเราอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับภูมิภาคเอเชีย ที่กำลังเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดโลก เรียกได้ว่าเราอยู่ถูกที่ถูกเวลา”
“Nick Nash, venture capital” บอกว่า บริษัทกำลังบ่ายโฉมหน้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเหล่านี้กำลังเข้าสู่ยุคทอง
ดังนั้นสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงเวลานี้คือ การผลักองค์กรให้ไปอยู่ในแกนกลางพายุ ที่ทุกองค์กรต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และต้องสร้างองค์กรแห่งการเปลี่ยนผ่าน เพราะอีก 10 ปีข้างหน้า เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดขององค์กร ที่สามารถปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
และในอีก 10 ปีข้างหน้านี้ บรรดากลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ ยูนิคอร์นจะไม่ cool อีกแล้ว เพราะมีม้ามืดตัวใหม่ แห่มาเพิ่มอีก 20 ตัว
ทรานส์ฟอร์มเป็นเรื่องยากเอามากๆ ต้องเริ่มจากแก่นใน จะมาทำแบบผิวเผินไม่ได้ และต้องเริ่มจากด้านบนก่อนเสมอ ไม่ได้เริ่มจาก HR แต่เริ่มจากผู้บริหารตระกูล C ที่ต้องมีความตระหนักถึงวิกฤตที่เกิดขึ้น พอวิกฤตแล้ว ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และทรานส์ฟอร์มองค์กรไปพร้อมๆ กันในทุกวัน องค์กรต้องลุกขึ้นมาหมั่นซ้อม เพราะโลกอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีดิสรัปเข้ามาไม่หยุดหย่อน
ทำไมองค์กรต้องทรานส์ฟอร์ม? ถ้าตอบเหตุผลทางยุทธศาสตร์ คือการส่งสารให้ทุกคนเดินไปพร้อมกัน
“หน้าที่ผู้นำหลังโควิด-19 หนักหน่วงมาก ต้องเป็นผู้นำแนวคิดใหม่ ต้องทำกลยุทธ์หลังโลกใหม่ โลกหลังโควิด-19 เปลี่ยนไปมหาศาลแน่นอน ตอนนี้ทุกอย่างทำได้หมด ทำให้เกิดธุรกิจส่งอาหาร ตอนนี้ home economy กำลังเติบโต คนทำทุกอย่างจากที่บ้าน โลกใหม่ ภูมิทัศน์ใหม่ เปลี่ยนไปมหาศาล
ผู้นำต้องวางสถาปัตยกรรมองค์กร ออกแบบโครงสร้างองค์กร มีความรู้ความสามารถ มีระบบบริหารจัดการ เป็น Chief Culture Officer หัวหน้าทีมบริหารวัฒนธรรมองค์กร เพราะวัฒนธรรมเป็นแก่น เป็นเส้นเลือด เป็นจิตวิญญาณ ให้ร่างกายขยับ”
วัฒนธรรมที่ดีต้องเริ่มจากเบื้องบน ต้องมองเห็นเลาๆ ว่า โลกจะเป็นอย่างไรต่อไป? อย่าใช้วิธีตัดแปะ ไปเอาวัฒนธรรมของเน็ตฟลิกซ์มาโมดิฟาย หรือแอบไปดึงเอากลยุทธ์จากอเมซอนมา เพราะจะทำให้องค์กรของเรากลายเป็น “ผีดิบแฟรงเกนสไตน์” ในบัดดล
ดังนั้นแล้ว หาให้ได้ว่าเหตุผลของการดำรงอยู่ในโลกใหม่คืออะไร? หาให้เจอ อย่าไปก๊อปปี้ เพราะทุกอย่างมันต้อง fit ในแบบของคุณเอง
การเปลี่ยนแปลงองค์กร ต้องเริ่มจากภูมิทัศน์ เชื่อมด้วยระบบภาวะผู้นำ ภาวะผู้นำเท่านั้นถึงจะทำให้เกิดทรานส์ฟอร์มขององค์กรได้ คิดสิคิด! ทำไมองค์กรของคุณต้องดำรงอยู่หลังโลกใหม่?
การทรานส์ฟอร์มต้องทำทุกส่วนไปพร้อมกัน ทั้งโมเดล กลยุทธ์ วัฒนธรรมองค์กร โครงสร้างองค์กร ระบบบริหารจัดการ และมันต้องเข้าพวกกัน โดยถามตัวเองว่า มันสอดคล้องกับกลยุทธ์ และโมเดลของคุณหรือเปล่า? จากนั้นจึงเอาเทคโนโลยีมาใส่เพื่อทรานส์ฟอร์ม ทุกอย่างต้องคิดเป็นระบบ
ข้อคิดสำหรับผู้นำคือ คุณต้องมีดีไซน์ มี inner passion อยู่เต็มหัวใจ เพราะยิ่งอยู่ระดับสูง จุดอ่อนจะยิ่งขยายมหาศาล ถ้าคุณสื่อสารห่วย ยิ่งนำการเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าใด จะไปแตะคนมหาศาล
สิ่งสำคัญคือ ต้องตระหนักเสมอว่า ตัวคุณมีจุดอ่อนอะไร? จะปิดจุดอ่อนได้อย่างไร? เพราะยิ่งทรานส์ฟอร์ม จุดอ่อนจะยิ่งขยายเป็นวงใหญ่
“ในโลกใบใหม่ จุดแข็งจะกลายเป็นจุดอ่อนเฉยเลย บางคนเก่งวางยุทธศาสตร์ 5 ปี แต่โลกใหม่ไม่มีหรอกยุทธศาสตร์ 5 ปี ต่อให้ 3 ปียังยาวเกินไปเลย โลกยุคใหม่ต้องการคนเก่งมาอยู่รวมกัน สร้างระบบนิเวศทางธุรกิจร่วมกัน”
ขณะเดียวกัน ผู้นำอย่าสร้างคนที่คิดเหมือนๆ กันใน comfort zone ต้องหาคนที่กล้าถกเถียง กล้าเผชิญหน้า จะได้เอามาเติมเต็มซึ่งกันและกัน และวัฒนธรรมองค์กรที่ดี จะสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมในทีมของผู้นำอีกด้วย
แหล่งข่าว ‘โควิด-19’ ใกล้จบ แต่ผู้นำไม่มีวันจบ, bangkokbiznews, 06 ก.ย. 2564