ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ร่วมมือกับ บริษัท ริปเปิ้ล แลป (Ripple) และ บริษัท เอสบีไอเรมิต จำกัด (SBI Remit) ผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ ที่มีความเชี่ยวชาญในบริการโอนเงินตามกฎหมายของญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสององค์กรมีการใช้เทคโนโลยี Ripple Net ซึ่งเป็นโซลูชันบล็อกเชน ระดับองค์กรของ Ripple เพื่อยกระดับสู่การประมวลผลการให้บริการโอนเงินแบบเรียลไทม์สำหรับลูกค้ารายย่อยของประเทศไทย
ปัจจุบันการโอนเงินจากประเทศญี่ปุ่น มายังผู้รับเงินในประเทศไทยต้องใช้ตัวกลางเพื่อรับเงินจากต้นทาง ซึ่งมีความยุ่งยาก และยังต้องแปลงค่าเงิน แต่การร่วมมือในครั้งนี้นำไปสู่ความก้าวหน้าครั้งสำคัญของการสร้างระบบนิเวศน์ทางการเงินยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ตอบสนองเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่สู่โลกการเงินดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
การที่ SCB เลือกใช้บล็อกเชนของ Ripple ที่ถือเป็น Private Blockchain (บล็อกเชนวงปิดที่เข้าใช้งานได้เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานภายในองค์กร ดังนั้น ข้อมูลการทำธุรกรรมต่าง ๆ จะถูกจำกัดอยู่เฉพาะภายในเครือข่ายซึ่งประกอบ) รายใหญ่ของโลก ซึ่ง DV ได้เข้าไปลงทุนด้วย เช่นเดียวกับ SBI Remit ผู้ให้บริการด้านการโอนเงินระหว่างประเทศ
นายโนบุโอะ อันโดะ กรรมการบริหารบริษัท SBI Remit เปิดเผยว่า สิ่งนี้ทำให้คนไทย 47,000 คน ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นสามารถส่งเงินกลับบ้านได้เร็วขึ้น โดยลูกค้าของ SBI Remit สามารถใช้ตู้ ATM สาธารณะทุกแห่ง เพื่อส่งเงินในสกุลเยนญี่ปุ่น (JPY) ในประเทศญี่ปุ่นไปยังบัญชีออมทรัพย์ ของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ของผู้รับในประเทศไทยได้ทันที และได้รับเงินเป็นสกุลเงินบาทภายในไม่กี่วินาที ที่ผ่านกระบวนการบนเครือข่ายบล็อกเชนของ Ripple
การประกาศความร่วมมือในครั้งนี้ และการพร้อมเปิดใช้งานบนบล็อกเชน Ripple ได้สะท้อนถึงกฎระเบียบด้านคริปโทเคอร์เรนซีที่มีความก้าวหน้า และการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในเอเชีย-แปซิฟิก
แหล่งข่าว ‘ไทยพาณิชย์’ จับมือ ‘ริปเปิ้ล - เอสบีไอเรมิต’ โอนเงินผ่านบล็อกเชน ‘ญี่ปุ่น - ไทย’, bangkokbiznews, 19 ส.ค. 2565