ค่าเงินบาทในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (20-23 ก.ย.) ทยอยอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยเมื่อวันพฤหัสบดี (23 ก.ย.) ขึ้นไปทดสอบระดับ 33.60 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 4 ปี ก่อนจะกลับมาปิดที่ระดับ 33.25 บาทต่อดอลลาร์เทียบกับ 33.22 บาทต่อดอลลาร์ในวันศุกร์ก่อนหน้า (17 ก.ย.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (27 ก.ย.-1 ต.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-33.80 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิด และรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนส.ค. ของธปท.
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตเดือนก.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย และ PCE/Core PCE Price Indices เดือนส.ค. จีดีพีไตรมาส 2 ปี 2564 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามสถานการณ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์และข้อมูลกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของจีน รวมถึงดัชนี PMI เดือนก.ย. ของจีน ยูโรโซน และสหรัฐ
ส่วนแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์ถัดไป (27 ก.ย.- 1 ต.ค.) บล.กสิกรไทย มองว่า จะมีแนวรับที่ 1,610 และ 1,600 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,645 และ 1,655 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (29 ก.ย.) ความชัดเจนเกี่ยวกับแผนเปิดประเทศ สถานการณ์โควิด ทิศทางเงินลงทุนจากต่างประเทศ ตลอดจนสถานการณ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีน
แหล่งข่าว “กสิกรไทย” คาด “เงินบาท” สัปดาห์หน้าอ่อนค่าต่อแตะ 33.80 บาทต่อดอลลาร์, bangkokbiznews, 26 ก.ย. 2564