"นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร” นักลงทุนรายใหญ่ แบบเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) หรือ วีไอ เปิดเผยให้ “หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ” ฟังว่า มีมุมมองตลาดหุ้นไทยปี 2565 น่าจะ “เป็นปีแห่งการฟื้นตัว!” แล้ว สะท้อนผ่านปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยบ้างแล้ว ซึ่งในส่วนของตลาดหุ้นนั้นจะมองภาพอนาคตก่อน และการเห็นสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคตจึงเป็นสิ่งที่ตลาดหุ้นจะชื่นชอบ ดังนั้น ในปี 2565 มีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะเข้าสู่ภาวะ “ขาขึ้น” ชัดเจน แต่หลังจากตลาดขึ้นมามากแล้วตอนนั้นก็ต้องมาดูอีกครั้งว่าจะมีปัจจัยอะไรมากระตุ้นต่อหรือเปล่า
สำหรับ ปี 2564 มุมมองส่วนตัวให้ “นิยามตลาดหุ้นไทย” ว่า เป็นปีที่ตกถึงพื้น ต่อไปไม่เลวร้ายไปกว่านี้แล้ว บ่งชี้ผ่านสถานการณ์ในช่วงกลางปีที่ผ่านมาที่ค่อนข้าง “แย่มาก” เนื่องจากภาครัฐจำเป็นต้องงัดมาตรการ “ปิดเมือง” (ล็อกดาวน์) กลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อเป็นการสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังเมืองไทยพบตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศแตะระดับ “หมื่นรายต่อวัน” ส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ออกมา “ติดลบ” ถ้วนหน้า
ทั้งนี้ การลงทุนในตลาดหุ้นไทยต้องเลือกซื้อรายตัว เพราะแต่ละเซคเตอร์ปรับขึ้นเต็มมูลค่าแล้ว อีกทั้งยังมีแต่ธุรกิจที่อยู่ในเศรษฐกิจแบบเก่า (Old Economy) โดยต้องเลือกหุ้นที่ธุรกิจมีความแน่นอน ราคายังถูกกว่าตลาด และมีเงินปันผลที่ดี ที่สำคัญคือธุรกิจต้องไม่สามารถถูกทำลายด้วยเทคโนโลยี
ขณะที่ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ดัชนีปรับตัวขึ้นได้แต่ไม่โดดเด่น เพราะในช่วงโควิด-19 ปรับตัวลงมาหลายเปอร์เซ็นต์ แต่บวกกลับมาประมาณ 13% เท่านั้น ขณะที่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทั้งตลาดหุ้นและเศรษฐกิจไทยก็ไม่ได้ขยับไปไหนไกล ส่วนในอีก 5-10 ปีข้างหน้ายิ่งลำบาก เพราะประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยและเศรษฐกิจเติบโตช้า
นายวัชระ แก้วสว่าง” หรือ “เสี่ยป๋อง” นักลงทุนรายใหญ่ที่มีสไตล์ลงทุนแบบ Technical มีมุมมองตลาดหุ้นไทยปี 2565 ว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยจะฟื้นตัวจากปี 2564 ตามกราฟสัญญาณเทคนิค โดยคาดว่าปี 2565 มีโอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยทะลุ 1,800 จุด เนื่องจากคาดว่าจะมีนโยบายใหม่ๆ ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจอีก ประกอบกับสัญญาณกราฟเทคนิคไม่ได้เลวร้าย
อย่างไรก็ตาม มองว่าหากภายใน 2 สัปดาห์ สัญญาณกราฟเทคนิคยังไม่หลุด 1,625 จุด มองว่าระยะสั้นดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่หากกราฟเทคนิคหลุดตอนนั้นนักลงทุนควรลดพอร์ตลงทุนลงบ้าง แต่หากภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า ดัชนีหลุด 1,577 จุด ตอนนั้นนักลงทุนควรปรับลดพอร์ตลงทุนลง 50% เพราะมีโอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นจะพักฐาน แต่หากดัชนีฯ หลุด 1,500 จุด ตลาดหุ้นจะเป็น“ขาลง”ดังนั้น หากสถานการณ์เป็นเช่นนั้นนักลงทุนอาจจะต้องล้างพอร์ตลงทุนก่อนได้
นายวิชัย วชิรพงศ์” หรือ “เสี่ยยักษ์” นักลงทุนรายใหญ่ มีมุมมองตลาดหุ้นไทยปี 2565 ว่า ภาพรวมตลาดยังถูกความเสี่ยงของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนกดดัน ดังนั้น มองว่า “การลงทุนไม่ง่าย” ในปีนี้ โดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีทิศทางไซด์เวย์ออกข้าง แต่สำหรับภาพการลงทุนนั้น นักลงทุนยังต้องนำเงินเข้ามาลงทุนในตลาดต่อเนื่องจากเป็นแหล่งสร้างผลตอบแทนที่ดีหากลงทุนถูกตัว
ฉะนั้น ภาพการ “เก็งกำไรหุ้น” ก็ยังจะเกิดขึ้นเหมือนในปี 2564 สะท้อนผ่านดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาสร้างผลตอบแทนระดับ 13% จากเม็ดเงินนักลงทุนที่เข้ามาเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่ สะท้อนจากปี 2564 หุ้นในตลาด เอ็ม เอ ไอ (mai) สร้างผลตอบแทน (รีเทิร์น) มากกว่าหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ (Big Cap)
สำหรับ “ปัจจัยลบ” ที่ปี 2565 ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ ตัวเลขหนี้เสีย (NPL) ที่คาดว่าจะสูงถึงระดับ 5-7 แสนล้านบาท หลังมาตรการช่วยเหลือในกลุ่มสินเชื่อที่ให้กับ SMEs สิ้นสุดลง และคาดว่าน่าจะไม่มีการต่ออายุมาตรการดังกล่าว ซึ่งต้องดูว่ารัฐบาลจะช่วยผู้ประกอบการ SMEs ยังไง เนื่องจากปัจจุบันภาพรวมเศรษฐกิจไทยการฟื้นตัวล่าช้า แต่อย่างไรก็ตามธุรกิจธนาคารของไทยยังมีฐานะการเงินแข็งแรง
แหล่งข่าว “รายใหญ่” ลุ้นดัชนีหุ้นไทยปี 65 มีโอกาสทะลุ 1,800 จุด !, bangkokbiznews, 04 ม.ค. 2565