ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 ต.ค.64 ปิดที่ 1,605.17 จุด ลบ 0.51 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 75,664.82 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,625.73 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BANPU ปิด 13 บาท บวก 0.60 บาท, GULF ปิด 43.25 บาท บวก 1.75 บาท, KBANK ปิด 134.50 บาท บวก 1 บาท, SCB ปิด 123 บาท บวก 1 บาท, GUNKUL ปิด 5.05 บาท บวก 0.19 บาท
บล.ทรีนีตี้ มองทิศทางการลงทุนเดือน ต.ค.64 ว่า SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,550-1,650 จุด ปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนเดือนนี้ ไฮไลต์อยู่ที่พัฒนาการของ Bond yield สหรัฐฯเป็นสำคัญ
เพราะขณะนี้นักลงทุนในตลาดยังไม่เชื่อ Dot plots ของ Fed ที่ออกมาก่อนหน้านี้มากนัก ดังนั้น หากมีตัวเลขเศรษฐกิจใดก็ตามที่ทำให้ความเชื่อเหล่านี้เริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น จะทำให้ระดับ Fed Funds futures ในตลาดยกตัวสูงขึ้นได้ จนส่งผลให้ Bond yield และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นด้วย จะกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลกผ่านมาตรวัด Earning yield gap ที่ลดลง
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำเพียงแค่การถือครองหุ้นในส่วนเดิมที่ได้เข้าสะสมก่อนหน้านี้ที่บริเวณดัชนี 1,600 จุด ส่วนการเพิ่มน้ำหนักใหม่ยังไม่แนะนำ จนกว่าดัชนีจะลงมาใกล้เคียงกับระดับแนวรับเดือนนี้ที่ 1,550 จุด
และยังคงโฟกัสไปที่กลุ่มหุ้น Domestic play โดยเฉพาะ Domestic consumption ที่อิงการฟื้นตัวของภาคแรงงานและการบริโภคภายในประเทศ นอกจากนั้นยังได้ประโยชน์จากภาวะความชัน Yield curve ขาขึ้น และมีลุ้นรับข่าวเชิงบวกจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐ!!
หุ้นแนะนำลงทุน 15 หุ้นเด่น ดังนี้ 1.กลุ่มค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากรายได้และความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงขึ้น ได้แก่ CPALL, COM7, MAKRO, HMPRO, GLOBAL, DOHOME 2.กลุ่มโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากความต้องการใช้ไฟของภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรมที่มากขึ้น ได้แก่ GULF, GPSC, BGRIM 3.หุ้นกลุ่มผู้ให้บริการสถานีปั๊มน้ำมันจากอุปสงค์การเดินทางที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ OR และ PTG
4.กลุ่มธุรกิจ AMC ที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของ SCB แต่ราคากลับปรับตัวลงมาแรง ได้แก่ JMT, CHAYO 5.หุ้น 2 บริษัท ที่อยู่ในธีม Index rebalancing พบว่า หุ้นที่มีลุ้นถูกนำเข้าสู่ดัชนี MSCI Thailand Standard Index ในรอบถัดไป ได้แก่ TTB
แหล่งข่าว 15 หุ้นเด่นทรีนีตี้!!, ไทยรัฐ, 02 ต.ค. 2564