41% ของชาวอเมริกันจะไม่ซื้อสินค้า “Made in China” - 1 ตุลาคม 2563

Foun Thai

Administrator
41% ของชาวอเมริกันจะไม่ซื้อสินค้า “Made in China”

สหรัฐฯ และจีนมีกำลังก้าวเข้าสู่ “สงครามเย็นครั้งใหม่” ในอีกไม่กี่ทศวรรษ ซึ่งหมายถึงการต่อสู้ที่ยาวนานทั้งทางเศรษฐกิจ การทหาร และอุดมการณ์ระดับโลกที่อาจนำไปสู่แบ่งขั้วโปรสหรัฐฯ และโป โดยการแบ่งแยกระหว่างสองประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อาจจะสร้างแรงกดดันให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องเข้าในขั้วใดขั้วหนึ่งแม้ว่าประเทศเหล่านั้นจะต้องการเป็นมิตรกับทั้งสองประเทศก็ตาม

1601619896228.png

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่าน มาวอชิงตันทำให้ Huawei ซื้อ Semiconductors ที่ใช้สำหรับการผลิตได้ยากขึ้น ขณะที่ ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้พยายามลบ TikTok จาก App Store ในสหรัฐฯ แม้ในที่สุดศาลสหรัฐฯ จะระงับคำสั่งชั่วคราว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คาดการณ์ว่าความเป็นไปได้สูงว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ - จีนจะแย่ลง ไม่ใช่แค่ระดับรัฐบาล แต่ระดับประชาชนอีกด้วย โดยผู้บริโภคจากทั้งสองประเทศมีแนวโน้มที่จะคว่ำบาตรผลิตภัณฑ์ของกันจากกระแสชาตินิยมเพิ่มขึ้นหลังจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
ในเดือนพฤษภาคม Deutsche Bank Research รายงานว่า 41% ของชาวอเมริกันจะไม่ซื้อสินค้า "Made in China" อีก ขณะที่ 35% ของชาวจีนจะไม่ซื้อสินค้า "Made in USA"

แหล่งข่าว 41% of Americans will not buy “Made in China” products again โดย The FxPro News Team

แปลโดยทีม Tradersthailand
 

Members online

No members online now.

Forum statistics

Threads
12,180
Messages
12,435
Members
319
Latest member
SEO01

สนับสนุนโดย

Top