หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 165 บาท ลบ 4 บาท, TRUE ปิด 5.10 บาท ลบ 0.60 บาท, CPALL ปิด 67 บาท บวก 1.25 บาท, IVL ปิด 46 บาท ลบ 3.75 บาท, PTT ปิด 38.75 บาท ลบ 0.75 บาท
หุ้นไทยร่วงแรง หลังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยกระดับเตือนภัยโควิด-19 จากระดับ 3 เป็นระดับ 4 เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อกระจายตัวทั่วประเทศมากขึ้น กระทบต่อบรรยากาศการลงทุน ขณะที่ Fund flow เริ่มชะลอการลงทุนจากความไม่แน่นอน กรณีความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน
บล.ทิสโก้ ชี้หุ้นไทยลงแรงจากแรงขายลดความเสี่ยง หลังตลาดปรับขึ้นมาค่อนข้างเร็วรับ Fund flow ต่างชาติไหลเข้า เมื่อมีความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จึงขายทำกำไรออกมาเพื่อลดความเสี่ยง ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ล่าสุด สาธารณสุขฯ ประกาศเตือนภัยโควิดจาก 3 ขึ้นเป็นระดับ 4 หวั่นกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ด้านเทคนิคส่งสัญญาณลบ หลังดัชนีปรับตัวลงมาตั้งหลักบริเวณ 1,690 จุด ซึ่งเป็นแนวรับแรก ถ้าหลุดจะลงมาที่ 1,680 จุด ขณะที่ขาขึ้นยังคงให้แนวต้านที่ 1,710 จุด
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ชี้ตลาดหุ้นไทยเปราะบางกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคและตลาดหุ้นโลกที่ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นไทยลงแรงจากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ทำให้นักลงทุนขายลดเสี่ยงออกมา
ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติจากที่ซื้อต่อเนื่อง เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอลง เป็น Sentiment ที่กดดันตลาดระยะสั้น ด้านเทคนิคให้แนวรับ 1,685 จุด แนวต้าน 1,700 จุด
บล.เอเซียพลัส ชี้ระหว่างตลาดหุ้นโลกอยู่ภายใต้ความผันผวน แต่ตลาดหุ้นไทยอาจย่อตัวลงบ้าง แต่ถือว่าผลกระทบจำกัด ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้คาดหวังว่า Fund flow จากต่างชาติจะช่วยพยุงตลาดได้ต่อเนื่อง เอเซียพลัสค้นหาหุ้นน่าซื้อสะสม และเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆของนักลงทุนต่างชาติ คือ หุ้นที่ฐานกำไรอยู่เหนือก่อนเกิด COVID-19 แต่ราคายัง Laggard ตลาดอยู่มาก ได้ 9 หุ้นเด่นคือ BGRIM, TOP, OSP, PTT, SCCC, GPSC, WHA, SCC และ AEONTS!!
แหล่งข่าว 9 หุ้นเด่นเอเซียพลัส!!, ไทยรัฐ, 22 ก.พ. 2565