ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 ก.ย.64 ปิดที่ 1,605.68 จุด ลบ 11.30 จุด มูลค่าการซื้อขาย 90,650.11 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,160.26 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 133.50 บาท ลบ 4 บาท, GUNKUL ปิด 4.86 บาท บวก 0.06 บาท, SCB ปิด 122 บาท ลบ 2.50 บาท, TRUE ปิด 3.80 บาท ลบ 0.20 บาท, UBE ปิด 2.06 บาท ลบ 0.34 บาท
หุ้นไทยปรับตัวลดลงจากการขายทำกำไรในหุ้น Big cap เกือบทุกกลุ่มที่ราคาปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้า และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2 วัน เป็นปัจจัยที่กดดันการลงทุน มีสถิติข้อมูลตัวเลขการลงทุนหุ้นไทย สิ้นไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี พบว่า ในรอบ 9 เดือนดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมา 10.78% หรือ 156.33 จุด เทียบกับดัชนีปิด ณ วันที่ 30 ก.ย.64 ที่ 1,605.68 จุด กับดัชนีเปิดสิ้นปี 64 อยู่ระดับ 1,449.35 จุด
นั่นหมายถึงว่า 9 เดือนแรกของปีนี้ หุ้นไทยยังทำกำไรหรือสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนได้ 10.78%
ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เกตแคป) ขึ้นมาปิดที่ 18.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 16.07 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านล้านบาท
หุ้นไทย 9 เดือนแรกยังคงขับเคลื่อนด้วยเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนรายย่อยในประเทศที่มียอดซื้อสุทธิ มากที่สุดกว่า 1 แสนล้านบาท หรือมีสัดส่วนในการลงทุนที่ 44.53% ของมูลค่าการซื้อขายรวม
ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิอยู่ 7.5 หมื่นล้านบาท มีสัดส่วนการลงทุนที่ 38.37% ส่วนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 3.8 หมื่นล้านบาท และมีสัดส่วน 7.24% ขณะที่พอร์ตบริษัทหลักทรัพย์หรือพอร์ตโบรกเกอร์ เป็นซื้อสุทธิ 1.24 หมื่นล้านบาท มีสัดส่วนในการลงทุน 9.86%
ปิดท้าย ประเมินจากการคงอัตราดอกเบี้ยของ กนง.ด้วยมติเอกฉันท์ และการคงประมาณเศรษฐกิจปี 64 พร้อมๆกับปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจปี 65 เอเซียพลัสชี้ว่า เป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของไทยน่าจะใกล้ Bottomed Out ตามไปด้วยเช่นเดียวกัน หนุนให้เศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ยของไทยมี Downside จำกัดมากขึ้น
โดยในระยะกลาง-ยาว เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัว และอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มขยับขึ้นได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นกลุ่มต่างๆในระยะต่อไป เช่น กลุ่มธนาคาร, กลุ่มประกันได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยถึงจุดต่ำสุด หุ้นเด่น KBANK, SCB, BBL, TISCO กลุ่มประกัน BLA
กลุ่มที่ได้ประโยชน์หาก Fund Flow ไหลเข้า PTT, PTTEP, PTTGC, OR, IVL, SCC, TOP, CPALL, CRC, ADVANC รวมทั้งหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทชะลอการอ่อนค่า!!
แหล่งข่าว 9 เดือนให้ผลตอบแทน 10.78%, ไทยรัฐ, 01 ต.ค. 2564