adminthailand1
Administrator
BTC via Unsplash.com
ถ้าย้อนกลับไป 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนที่ Bitcoin เพิ่งเกิดมาบนโลกใบนี้ คงไม่มีใครคาดคิดว่า มูลค่าของ Bitcoin 1 BTC จะกระโดดขึ้นไปสูงถึงหลักล้าน จนนักลงทุนทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ต่างแย่งกันขุด แย่งกันเทรด สำหรับนักลงทุนท่านไหนที่กำลังสนใจอยากเข้ามาร่วมวงลงทุนสาย Cryptocurrency บ้าง และยังมีสงสัยหลายอย่าง ยังรีรอ ไม่กล้าลงทุนสักที เราจะพาไปตอบทุกข้อสงสัย ไม่ว่าจะตั้งแต่เรื่องว่า บิทคอยน์ คืออะไร? หาเหรียญ Bitcoin หาจากไหน? Bitcoin เล่นยังไง? ฯลฯ สรุปจบ เข้าใจในโพสต์เดียว!
KEY TAKEAWAYS ON BITCOIN
- ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 2009 ณ ขณะนี้ถือเป็นสกุลเงินคริปโตฯ ที่มีส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- เงินคริปโตฯ อย่าง Bitcoin ถูกสร้างขึ้น เทรด และจัดเก็บข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ที่มีจุดเด่นเรื่องความโปร่งใส ง่ายต่อการเข้าถึงข้อมูล
- หลายคนสับสนคิดว่า Bitcoin และ Blockchain คือสิ่งเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น Bitcoin หรือ BTC คือชื่อสกุลเงินดิจิทัล ส่วน Blockchain คือชื่อเทคโนโลยี
- แนวคิดเริ่มแรกคือ ความต้องการที่จะสร้างสกุลเงินที่ไร้การควบคุมและกำหนดมูลค่าเงินจากใครคนใดคนหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง
- ตลอดระยะเวลาหลาย 10 กว่าปีมานี้ Bitcoin ได้ผ่านช่วงเวลาที่มูลค่าสูงและต่ำ ขึ้นและลงมาหลายต่อหลายรอบด้วยกัน
- การขุดเหรียญคริปโตฯ (Mining) สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุน (แต่ลงทุนกับการหาความรู้ ทรัพยากรด้านเวลา ทรัพยากรด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และค่าไฟแทน)
- คอมพิวเตอร์ที่พยายามถอดรหัสทางคณิตศาสตร์ ในภาษาอังกฤษจะถูกเรียกว่า Miner ส่วนการขุดหาคำตอบ ในภาษาอังกฤษจะถูกเรียกว่า Mining หากได้คำตอบที่ถูกต้องจะได้รางวัลเป็นเหรียญบิทคอยน์
- ในการที่จะขุด Bitcoin เราจำเป็นต้องใช้พลังงานคอมพิวเตอร์ ใช้ CPU GPU และพลังงานไฟฟ้ามหาศาล จะต้องแข่งกันกับนักขุดที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน
- เหรียญ Bitcoin นั้นมีจำกัด ทั้งหมดมีจำนวนประมาณ 21 ล้านเท่านั้น และปัจจุบันได้ถูกขุดไปแล้วกว่า 80%
- เพราะบิทคอยน์นั้นมีจำกัด จึงเกิด ‘Bitcoin Halving’ ซึ่งหมายถึงการลดปริมาณ Bitcoin ที่ปล่อยออกมาลงทุก 4 ปี ทำให้เมื่อมี Demand ต่อเหรียญ BTC สูงขึ้น ในขณะที่จำนวนเหรียญลดลง จะส่งผลให้มูลค่าของเหรียญสูงขึ้น
Bitcoin คืออะไร ?
Bitcoin (BTC) คือ หนึ่งในสกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์ จากภาษาคอมพิวเตอร์ ซึ่งถือว่า “ทรงพลังที่สุด” ในตลาดคริปโตเลยก็ว่าได้ (สังเกตจากค่าเงินบิทคอยน์ที่มีราคาสูงสุดในตลาด 1 BTC = 1 ล้านกว่าบาท แถมมีแนวโน้มว่า จะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีบางช่วงแผ่วไปบ้าง แต่ก็ยังยากจะล้มในเวลาอันใกล้) ทุกคนสามารถใช้บิทคอยน์ได้อย่างอิสระ ไร้การควบคุมจากตัวกลาง มี Blockchain มาเป็นเบื้องหลังตัวช่วยทำธุรกรรม จัดเก็บข้อมูลแบบ กระจายศูนย์ (Decentralize) แม้ไม่มีตัวกลางก็สามารถมั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้ เพราะทุกคนจะสามารถเข้าถึงข้อมูลชุดนั้น เพื่อตรวจเช็คและเป็นพยานในธุรกรรมเหล่านั้นได้เสมอ
ประวัติของ Bitcoin
Bitcoin เริ่มต้นมาจากโปรแกรมเมอร์คนหนึ่ง ที่มีนามแฝงว่า ซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto) ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีใครรู้ว่า ตัวจริงของเขาคือใครกันแน่ แต่สำคัญคือ เขามีแนวคิดที่น่าสนใจว่า อยากจะสร้างสกุลเงินที่ไร้การควบคุมและกำหนดมูลค่าเงินจากใครคนใดคนหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง เพราะกลไกการจัดการเงินในแต่ละประเทศมักจะถูกแทรกแซงด้วยอำนาจของรัฐฯ และมีแนวโน้มจะกลายเป็นระเบิดเวลาในอนาคต
ซาโตชิ จึงสร้างสกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์อย่าง “บิทคอยน์” มาให้อิสระจากการควบคุมของใครก็ตาม แต่มูลค่าจะถูกกำหนดด้วย Demand – Supply ของทุกคนที่ต้องการใช้งานแทน โดยระบบเกี่ยวกับบิทคอยน์ได้ถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรก จากการสร้างโดเมน ชื่อ “https://bitcoin.org/” เมื่อ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551 จากนั้นก็ได้มีการเปิดตัว “บิทคอยน์” และ ระบบ Blockchain เพื่อให้คนเริ่มขุด โดยกำหนดรางวัลที่จะแจกสูงถึง 50 บิตคอยน์
จากนั้นก็เริ่มมีคนที่สนใจเข้าไปขุด มีการแลกเปลี่ยนระหว่างบิทคอยน์ สินค้าและบริการ รวมทั้งเงินสดในโลกความจริง จนกระทั่งเมื่อความต้องการมากขึ้น จึงเกิดมูลค่า สามารถนำมาเทรด ซื้อ-ขายกันอิสระจนมูลค่าบิทคอยน์สูงอย่างในปัจจุบัน
Bitcoin คืออะไร
Bitcoin เล่นยังไง?
การเล่น Bitcoin ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย ต้องมีเงินทุนและความรู้ความเข้าใจ และใช้วิธีเล่นแค่ 2 แบบ คือ
1) การขุดบิทคอยน์
คำถามยอดฮิตที่มักจะเจอคือ “Bitcoin หาจากไหน?”
ถ้าไม่เอาเงิน สินค้าหรือบริการไปแลกเปลี่ยนมา ส่วนใหญ่ก็มักจะขุดด้วยการลงทุนคอมพิวเตอร์ ที่ติดตั้งด้วยการ์ดจอสเป็กพอกับที่ตอบโจทย์การใช้งาน มาช่วยในการประมวลผลถอดรหัสจากซอฟต์แวร์ แล้วจะได้ผลตอบแทนกลับมาเป็นบิทคอยน์ ยิ่งประมวลผลได้มาก ก็ยิ่งได้บิทคอยน์มาก ปัจจุบันก็อาจจะต้องพิจารณาดูว่า คุ้มมั้ยที่จะทำฟาร์มเหมืองขุดบิทคอยน์เอง เพราะบิทคอยน์มีอยู่อย่างจำกัดทั้งหมดบนโลกใบนี้เพียง 21 ล้าน BTC ซึ่งปัจจุบันก็ถูกขุดไปแล้วกว่า 16.8 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 80% ของจำนวนทั้งหมด หากจะลงทุนก็ต้องเร่งตัดสินใจกันหน่อยล่ะ
โดยที่ ‘การขุด Bitcoin’ จะหมายถึง การแข่งขันเติมตัวเลขที่จะสามารถแก้ไขสมการหรือรหัสที่โจทย์ให้มาได้ถูกต้องก่อนนักขุดคนอื่น นักขุดแค่ละคนจะมีคอมพิวเตอร์ที่นำเข้ามาช่วยแข่งขันการถอดรหัสทางคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ที่พยายามถอดรหัสในภาษาอังกฤษจะถูกเรียกว่า Miner ส่วนการขุดหาคำตอบของรหัสในภาษาอังกฤษจะถูกเรียกว่า Mining หากได้คำตอบที่ถูกต้องจะได้รางวัลเป็นเหรียญบิทคอยน์ นับเป็นการประลองกันที่ความเร็วของคอมพิวเตอร์ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าการจะขุดเจอบิทคอยน์นั้นยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งใช้เวลามาก และขุดยากมากยิ่งขึ้นกว่าในอดีต
2) การเทรดบิทคอยน์
เทรดบิทคอยน์ คือ การซื้อ-ขายเหรียญบิทคอยน์ในแพลตฟอร์มตลาดสกุลเงินดิจิทัล ตามราคาตลาด ณ ขณะนั้น คล้ายกับลักษณะการเทรดหุ้น ซื้อตอนราคาตก แล้วก็ถือครองไว้พอราคาสูงขึ้นได้กำไรจนพอใจก็ค่อยเทขาย เหมาะสำหรับคนที่มีงบไม่พอจะสร้างฟาร์มขุดบิทคอยน์ ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มในไทยที่ผ่านการรับรองจากกลต. อนุญาตให้ทำการซื้อ-ขายอย่างเป็นทางการแล้ว เช่น Bitkub, BX, Satang Proฯลฯ
นอกจากนี้ ยังอาจจะนำไปแลกเปลี่ยนกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นที่น่าสนใจ เพื่อเก็งกำไรในอนาคตก็ได้ หรือจะสร้างกำไรจากรูปแบบอื่น อย่าง Staking นำเงินดิจิทัลไปค้ำประกัน เพื่อได้เข้าไปเป็นผู้ดูแลระบบบล็อกเชนสกุลเงินหนึ่ง แล้วสกุลเงินนั้นจะตอบแทนมาเป็นเงินดิจิทัลสกุลเงินเดียวกัน หรือ เอาเหรียญไปปล่อยกู้ สร้างผลตอบแทนช่วงที่ถือเงินไว้นิ่งๆ ฯลฯ
แนวโน้มของบิทคอยน์
เรื่องที่น่ากังวลของบิทคอยน์ในตอนนี้ มีเพียงแค่ ความผันผวนสูง บางครั้งก็ดีด-ดิ่งตัวรุนแรง แต่ถามว่า ในปี 2021-2022 นี้ จะเจ๊งไหม? โอกาสถือว่า น้อยกว่าเหรียญสกุลเงินดิจิทัลอื่นพอสมควร เพราะองค์กรและผู้คนในหลากหลายประเทศทั่วโลกยังคงให้ความสำคัญและต้องการที่จะแย่งกันถือครองบิทคอยน์อยู่ แต่อาจจะต้องเตรียมใจในเรื่องของความผันผวนสูง และควรรู้ว่า ตอนไหนควรพุ่งตัวเข้าซื้อและตอนไหนควรขาย เพียงเท่านี้ก็จะไม่มีอะไรน่ากังวล
ในประเทศไทยนั้น อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่า มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คอยดูแลภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 เพื่อความปลอดภัยในการเล่นบิทคอยน์อยู่
สรุป
สุดท้ายนี้ ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นว่า บิทคอยน์เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันมากขึ้น เหมือนที่สมาร์ทโฟนและโลกอินเทอร์เน็ตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญกับชีวิตของผู้คนในแต่ละวันก็ได้ หรือวันหนึ่งบิทคอยน์อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าไปเลยก็ได้ ใครจะรู้แน่นอนล่ะ เพราะเรื่องพวกนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้คนนับล้านทั่วโลก ซึ่งมันยากจะคาดเดาอนาคตว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน
อย่างไรก็ตาม หากคิดจะเล่นบิทคอยน์ หรือลงทุนในคริปโตฯ สกุลใดๆ ก็ตาม ก็อย่าลืมเตรียมใจและศึกษาให้ดีก่อนลงทุนเสมอ ก็จะหาช่องทางสร้างกำไร ห่างไกลจากการขาดทุนได้ไม่ยาก!