เรียกว่าเป็นมหากาพย์ “ศึกหุ้น” “วิน เอ็นเนอร์ยี่” ก็ว่าได้ เพราะแง่กฎหมายที่คดีฟ้องร้องกันให้วุ่นวายพาเอาบรรดา “ก๊วนหุ้น” ที่ยอมใส่เงินลงขันซื้อหุ้นดักก่อนเข้าตลาดหุ้น กระวนกระวายใจมาหลายปีดีดัก.....เพราะทำยังไง๊ ยังไง เข้าทำเนียบตลาดหุ้นดูจะไกลออกไป
รายแรกที่เข้าไปถือลงทุนยกให้ DEMCO ออกมาเปิดเผยจำนวนหุ้นที่ถือ และราคาหุ้นที่ซื้อ ซึ่งประมาณว่าถ้าตามเป้าประสงค์กำไรมหาศาล - ราคาหุ้นไม่หยุดแค่นี้แน่นอน
สังเกตได้ว่าราคาหุ้นตอบรับข่าวขึ้นมาแรง 6 บาท บวกไป 10 % จากราคา 2 เดือนก่อนแถว 3 บาท !!
เอาเป็นว่าการรอคอยไม่เสียเที่ยวเพราะ รูปแบบการถือหุ้นเพิ่ม - รับปันผล ก็มีหลายวิธี ด้วยการสมประโยชน์ทุกฝ่าย เปิดทางให้ NUSA เข้ามาถือหุ้นใหญ่ 23.28 % ส่วนด้าน NUSA มีรายชื่อกลุ่ม “กิตติอิสรานนท์” ที่เป็นตัวตั้งตัวตีเข้าลงทุนใน “วิน เอ็นเนอร์ยี่” แรกๆ
จับตาให้ดีเพราะชื่อ “ ธนา พาวเวอร์ โฮลดิ้ง” เข้าถือหุ้น “วิน เอ็นเนอร์ยี่” 100 % แลกหุ้น NUSA เป็นที่เรียบร้อย เสมือนเข้าตลาดหุ้น(ทางอ้อม) ได้สักที
หุ้นไทยบวกตามตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค หลังจีนเริ่มทยอยผ่อนคลายล็อกดาวน์ในหลายเมือง และหวังว่าจะกลับมาเปิดประเทศในอีกไม่ช้า ขณะที่ปัจจัยในประเทศเป็นไปตามคาด หลัง กนง. ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่แบงก์ชาติประกาศออกมาส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง
โดยดัชนีปิดการซื้อขายที่ 1,635.36 จุด เพิ่มขึ้น 10.97 จุด หรือ 0.68% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,636.08 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,622.24 จุด มูลค่าการซื้อขาย 79,466.01 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อ 4,345.38 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ขาย 754.16 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขาย 341.08 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขาย 3,250.14 ล้านบาท
หุ้น “กลุ่มโรงพยาบาล” ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ หลังในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมากอีกครั้ง โดยเฉพาะใน กทม. ปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยว หนุนหุ้นโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนรายได้โควิดมากๆ เช่น บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) ปิดที่ 3.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 3.93% ส่วนบมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) ระหว่างวันขึ้นไปทำจุดสูงสุด 20.50 บาท ก่อนปิดไม่เปลี่ยนแปลง 20.30 บาท แถมช่วงนี้มีฝนตกหนัก ทำให้มีโอกาสเกิดโรคระบาดมากขึ้น กลายเป็นอีกหนึ่งจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่มโรงพยาบาล
ส่วนหุ้นรถไฟฟ้า บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ราคาวิ่งมาปิดที่ 8.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 1.82% หลังจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กลับมากว่า 70% จากช่วงก่อนเกิดโรคระบาด
ส่วนปีหน้าเตรียมเปิดให้บริการ 2 สายใหม่ “สีชมพู - เหลือง” และขึ้นราคาเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี จาก 16 - 44 บาท เป็น 17 - 47 บาท หลังต้นทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
แหล่งข่าว DEMCO ที่รอคอย |ออฟเรคคอร์ด, bangkokbiznews, 01 ธ.ค. 2565