ธนาคารกลางยุโรปทั้งหมดยกเว้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งในวันพฤหัสบดี ขณะที่ให้คำมั่นที่จะสนับสนุนระบบการเงินในปีหน้าโดยยึดตามมุมมองที่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงด้วยตัวเอง
ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของ ECB นั้นซับซ้อนยิ่งขึ้นด้วยแนวโน้มที่ไม่แน่นอน ซึ่งอาจบังคับให้ผู้กำหนดอัตราดอกเบี้ยชะลอการตัดสินใจสำคัญๆ หลายๆ อย่างออกไปจนกว่าจะถึงปีใหม่
สิ่งที่ปรากฏชัดเจนคือ การซื้อพันธบัตรภายใต้โครงการ PEPP ที่ 1.85 ล้านล้านยูโร จะลดลงในไตรมาสหน้า และจะลดลงในสิ้นเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม โครงการจัดซื้อสินทรัพย์ที่มีระยะเวลายาวนานจะได้รับการปรับเพิ่มขึ้น เพื่อชดเชยการกระตุ้นที่สูญเสียไปบางส่วน
ผลสำรวจของนักวิเคราะห์ของ Reuters ระบุว่า ยอดซื้อโดยรวมยังคงเหลืออยู่ที่ประมาณ 40 พันล้านยูโรต่อเดือน ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการซื้อในปัจจุบัน นอกจากนี้ ECB มีแนวโน้มที่จะส่งสัญญาณว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรตลอดทั้งปี เพื่อรักษาอัตราผลตอบแทนและควบคุมเพื่อไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565
การตัดสินใจด้านนโยบายมีกำหนดเวลา 12.45 GMT ตามด้วยงานแถลงข่าวของ Christine Lagarde ประธาน ECB เวลา 13.30 GMT
ปัญหาคือในขณะที่ ECB จะคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่จะกลับมาต่ำกว่าเป้าหมายในปี 2566 และคงอยู่ในปี 2567 ผู้กำหนดนโยบายจำนวนหนึ่งเตือนว่าการเติบโตของเงินเฟ้อในระดับสูงก็อาจติดขัดได้
สัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐในวันพุธว่าจะยุติการซื้อพันธบัตรในยุคโรคระบาดใหญ่ในเดือนมีนาคมและขึ้นอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปีหน้า ยังทำให้ ECB ซับซ้อนขึ้นด้วย เนื่องจากธนาคารกลางที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งของโลกกำลังเคลื่อนตัวไปในทิศทางตรงกันข้าม
ทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดคือผู้กำหนดนโยบายของ ECB อนุมัติโควตาการซื้อพันธบัตรสำหรับปี 2565 และเน้นว่าไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด จากนั้นธนาคารจะตรวจสอบปริมาณที่แน่นอนอย่างสม่ำเสมอและกำหนดเป้าหมายการซื้อในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น เช่นเดียวกับในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการใช้จ่ายในหนี้ต่างประเทศเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายของสหภาพยุโรปซึ่งเป็นโครงการหลักของกลุ่มเพื่อช่วยในการฟื้นตัว
แหล่งข่าว ECB set to dial back stimulus one more notch โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand