วงการคริปโทเคอร์เรนซี แทบระเบิดหลังเหรียญ “บิทคับ” และ “เจฟินคอยน์” ทำ “นิวไฮ และโลว์” ภายในวันเดียว ทำเอาบรรดานักเก็งกำไรที่แห่ลงทุนตามกระแส เห็นพอร์ตเขียวๆ กำไรไม่ทันข้ามวันถ้าขายไม่ทันขาดทุนตามมา
แต่อย่างว่าราคาหุ้นขึ้นแรงลงแบบเทกระจาดเป็นปกติของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ใครลงทุนคลิกขวา คลิกซ้ายให้เร็วเข้าว่า กลายเป็นเคสคลาสสิกในกลุ่มนักลงทุนไปเป็นที่เรียบร้อย
เห็นแบบนี้แต่ วอลุ่มสุดจะคึกคัก ทำให้บรรดา “เก๋าเกม” ในวงการหุ้นต้องหาทางเข้า “ตลาดดิจิทัล” ไม่ทางใดทางหนึ่ง
เสือปืนไวไหวตัวก่อนใครเพื่อน XPG พาราคาหุ้นไปล่วงหน้าพร้อมระดมทุนรอบใหญ่ ที่ประกาศเป็นน้องใหม่ในวงการด้วย FSS
งานนี้ “ช่วงชัย นะวงศ์” เตรียมกวาดใบไลเซนต์แบบ one stop service กับก.ล.ต.แน่นอน เพราะมีโปรแกรมเทรด “Fianasia HERO” ที่ถูกอกถูกใจกด like ให้ love กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่
ยุคแบบนี้เป็นได้เห็น “การโค่นแชมป์” “ล้มเบอร์ 1” ธุรกิจโบรกเกอร์ในตลาดดิจิทัลเป็นไปได้หมด
หุ้นไทยเปิดตลาดเด้งแรงทันทีหลังถูกถล่มขายหนักเมื่อวันก่อน แต่สุดท้ายก็ดีใจกันได้ไม่นาน หลังเปิดช่วงบ่ายถูกกระหน่ำขายอีกครั้ง ดิ่งแรงตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์สและหุ้นยุโรป ท่ามกลางความกังวลต่อการระบาดของโควิดกลายพันธุ์ “โอไมครอน” หลังซีอีโอ “โมเดอร์นา” ออกมารับว่าวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพลดลง เมื่อจากกับเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ยิ่งทำให้เกิดความตื่นตระหนกมากขึ้น ประกอบกับจะเริ่มมีการปรับพอร์ตของ MSCI
โดยดัชนี ปิดการซื้อขายที่ 1,568.69 จุด ลดลง 21 จุด หรือ 1.32% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,612.10จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,565.95 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นกว่า 1.6 ล้านบาท
หากถามว่าหุ้นตัวไหนร้อนแรงที่สุดนาทีนี้? ต้องขอยกตำแหน่งให้ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ไปเลย
หลังเล่นเดินหน้าทำออลไทม์ไฮต่อเนื่อง ยิ่งใกล้ถึงวันเปิดโรงงานแบตเตอรี่ 12 ธ.ค. ราคาหุ้นยิ่งคึก ล่าสุดมาปิดที่ 82 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท หรือ 3.8% ระหว่างวันทำจุดสูงสุด 84.50 บาท
ส่วนหุ้นลูก บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) วิ่งตามมาติดๆ ใส่เกียร์เดินหน้าทำออลไทม์ไฮเช่นกัน ขึ้นไปจุดสูงสุด 13.20 บาท ก่อนปิดที่ 13.10 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 8.26%
“หุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์” เป็นอีกกลุ่มที่ยืนบวกสวนกระดานได้ รับอานิสงส์ค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าแรง ทะลุ 33.70 บาทต่อดอลลาร์ กลายเป็นสตอรี่บวกเล็กๆ ในยามที่ตลาดเกิดอาการแพนิคแบบนี้นำทีม ด้วยบมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) บวก 0.9% ปิด 446 บาท, บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ (HANA) บวก 2.75% ปิด 93.50 บาท ส่วนบมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) บวก 1.94% ปิด 92 บาท
ช่วงนี้กระแสสินทรัพย์ดิจิทัลร้อนแรงเหลือเกิน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในช่วงสถานการณ์โรคระบาด ยิ่งแบงก์ใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กระโดดลงมาเล่นเต็มตัว ด้วยการเข้าซื้อกิจการ “Bitkub” แพลตฟอร์มเทรดคริปโทเคอร์เรนซี ยอดนิยมที่มีมาร์เก็ตแชร์มากที่สุดของประเทศ ยิ่งทำให้ตลาดระอุขึ้นไปอีก
ล่าสุด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กำลังศึกออกบริการใหม่ออมคริปโทเคอร์เรนซี ขณะที่ในฝั่งโบรกเกอร์คึกคักไม่แพ้กัน โดยซีอีโอ บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ประกาศว่าปี 2565 เตรียมขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. เพื่อให้บริการซื้อขายและเป็นที่ปรึกษาในการออก ICO Portal เลยดันราคาหุ้น FSS วิ่งแรง ปิด 4.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท หรือ 6.28%
ด้านบมจ.ไอที ซิตี้ (IT) แม้จะยังถูกขังกรง “แคชบาลานซ์” ถึง 8 ธ.ค. นี้ แต่ราคาหุ้นยังอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังย่อตัวลงไป 2 วัน ล่าสุดกลับมายืนทะลุแนวต้านสำคัญ 13 บาทได้อีกครั้ง ก่อนปิดที่ 12.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 2.4% ท่ามกลางความหวังว่างบไตรมาส 4 ปี 2564 จะโกยกำไรเข้ากระเป๋าเป็นกอบเป็นกำรับช่วงไฮซีซั่น
แหล่งข่าว FSS น้องใหม่ | ออฟเรคคอร์ด, bangkokbiznews, 1 ธ.ค. 2564