ผู้เชี่ยวชาญของ Goldman Sachs คาดการณ์การฟื้นตัวที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคยูโรโซน จากการที่ธนาคารกลางยุโรปจะยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและยังแนะนำว่ามาตรการรัดเข็มขัดอาจไม่เป็นที่พึ่งอีกต่อไป นักลงทุนในยุโรปต่างจับจ้องว่าธนาคารกลางยุโรปจะทำอะไรในแง่ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เฟดได้เพิ่มการคาดการณ์เงินเฟ้อเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566
Sven Jari Stehn หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ยุโรปของ Goldman Sachs ให้สัมภาษณ์กับ “Street Signs Europe” ของ CNBC เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กล่าวว่าตำแหน่งล่าสุดของเฟด “น่าจะทำให้ ECB มั่นใจมากขึ้นว่าจะสามารถเริ่มลดการซื้อ PEPP ได้ในภายหลังในปีนี้"
ECB ปรับใช้โครงการซื้อพันธบัตรในช่วงที่เกิดการระบาด ซึ่งปัจจุบันกำหนดไว้จนถึงเดือนมีนาคม 2565 และรวม 1.85 ล้านล้านยูโร (2.2 ล้านล้านดอลลาร์)
“เราคิดว่าพวกเขาจะก้าวลงจากโครงการซื้อ PEPP ในการประชุมเดือนกันยายน” Stehn กล่าว พร้อมเสริมว่า ECB ไม่ได้ “เร่งรีบที่จะปฏิบัติตามเฟด” ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Goldman Sachs ประมาณการการเติบโต GDP ของยูโรโซนไว้ที่ 5.4% สำหรับปีนี้ ซึ่งมากกว่ามติก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อจะไม่เพิ่มขึ้นถึงระดับที่ต้องการของ ECB แม้ว่าจะมีการเปิดประเทศใหม่ จึงต้องได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกลาง โดย Goldman Sachs คาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะ "เพิ่มขึ้นทีละน้อย" เป็น 1.5% ในไตรมาสที่สี่ของปีนี้
การระบาดใหญ่ยังทำให้รัฐบาลเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินและผ่อนปรนงบประมาณ ซึ่งเป็นแนวทางที่ตรงกันข้ามกับมาตรการรัดเข็มขัดที่ยูโรโซนได้ดำเนินการหลังจากวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 อย่างไรก็ตาม ทั้ง 19 ประเทศมีกำหนดจะหารือเกี่ยวกับการแก้ไขกฎงบประมาณของสหภาพยุโรป ซึ่งบางประเทศมองว่าเข้มงวดเกินไปและล้าสมัย
แหล่งข่าว Goldman Sachs makes two big predictions about Europe’s economic recovery โดย CNBC
แปลโดยทีม TradersThailand
