นายอิศรินทร์ ภัทรมัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการลงทุน บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4 ปี 2564 บริษัทเตรียมเปิดให้บริการธุรกิจใหม่ ได้แก่ 1. Kerry Cool ซึ่งเป็นบริการขนส่งสินค้าแช่เย็น แช่แข็ง และสินค้าที่ต้องการรักษาอุณหภูมิร่วมกับพันธมิตร ตอบรับการขนส่งผลผลิตทางการเกษตรของไทยและกระแสที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขอนามัยและความสดใหม่ของสินค้ามากขึ้น และ 2. Kerry LTL ซึ่งเป็นบริการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักเกิน 30 กิโลกรัมขึ้นไป และต้องใช้พื้นที่ในการจัดส่งค่อนข้างมาก เช่น วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ฯลฯ
ทั้งนี้ บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการจัดส่งสินค้าใน 2 ตลาดข้างต้น แม้ว่าจะเป็นตลาดขนส่งสินค้าที่มีผู้เล่นหลายราย แต่ยังไม่มีผู้เล่นคนใดคนหนึ่งเป็นผู้นำในตลาดดังกล่าว เนื่องจากบริการยังไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทั้งในแง่มาตรฐานในการจัดส่ง ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดส่ง รวมถึงการจัดส่งยังไม่สามารถทำได้ครอบคลุมทั่วประเทศ
3. Kerry Wallet ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มให้บริการชำระเงินที่บริษัทร่วมพัฒนากับพันธมิตร บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) ผ่านการเชื่อมต่อระบบชำระเงินต่างๆ เช่น แรบบิท ไลน์ เพย์, การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด, บัตรเดบิต และบัตรเครดิต เป็นต้น โดยคาดว่าบริการดังกล่าวจะช่วยขยายฐานลูกค้า และช่วยสร้างความรักที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ (Customer Loyalty) เพิ่มขึ้นต่อฐานลูกค้าประจำของบริษัทที่ใช้บริการกว่า 10 ล้านรายต่อเดือน เบื้องต้นจะให้บริการชำระเงินปลายทาง (COD) แก่ลูกค้า ก่อนจะขยายไปยังบริการอื่นๆ ในระบบนิเวศ (Ecosystem) ของ KEX และ SABUY ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าทั้ง 3 ธุรกิจใหม่จะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 1 ปี 2565
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างหาพันธมิตรเข้ามาร่วมให้บริการขนส่งสินค้าในลักษณะจากบ้านผู้ส่งถึงบ้านผู้รับ (Door-to-Door) ซึ่งเดิมเป็นจุดแข็งของบริษัทที่ให้บริการแก่ลูกค้าธุรกิจ ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีแผนขยายบริการไปยังลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น ซึ่งยอมรับว่าปริมาณสินค้าและต้นทุนในการให้บริการมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก บริษัทจึงต้องหาพันธมิตรเข้ามาร่วมให้บริการ Door-to-Door เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับส่งสินค้า โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 2564
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 3 ปี 2564 นายอิศรินทร์ กล่าวว่า แม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะมีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลต่อเนื่องมาสู่การล็อกดาวน์ อย่างไรก็ดี กิจกรรมผู้บริโภคยังค่อนข้างคึกคักในช่วง 2 เดือนแรก (ก.ค.-ส.ค.) สะท้อนจากปริมาณการจัดส่งพัสดุที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยคาดว่าเป็นผลจากที่ไตรมาส 3 และ 4 ของทุกปีเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ประกอบกับการดำเนินกลยุทธ์ด้านราคาของบริษัทที่ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น
แหล่งข่าว KEX จ่อเปิด 3 ธุรกิจใหม่ไตรมาส 4/64 หนุนครึ่งปีหลังโตแรง, bangkokbiznews, 31 ส.ค. 2564