Nasdaq ปิดย่อลงในวันพฤหัสบดีหลังจากแถลงการณ์ของเฟดเกี่ยวกับการยุติ QE ผลักนักลงทุนออกจากหุ้น Big Tech และไปสู่ภาคที่มีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจมากขึ้น Nvidia, Apple, Microsoft, Amazon และ Tesla ร่วงลงระหว่าง 2.6% ถึง 6.8% ดึง Nasdaq S&P 500 และดาวโจนส์
หุ้นเติบโตแบบเฮฟวี่เวทต่างเติบโตอย่างมากในปี 2564 โดย Nvidia เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 0.08% ปิดที่ 35,897.64 ขณะที่ S&P 500 ลดลง 0.87% ที่ 4,668.67 ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 2.47% สู่ 15,180.44
ธนาคารกลางสหรัฐกล่าวเมื่อวันพุธว่าจะยุติการซื้อพันธบัตรในเดือนมีนาคมและส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปี 2565 ซึ่งทำให้เกิดการเทขายหุ้นขนาดใหญ่ในวันพฤหัสบดี ดัชนีมูลค่าใน S&P 500 ไต่ขึ้น 0.7% ขณะที่ดัชนีเติบโตลดลง 2.1% สะท้อนมุมมองของนักลงทุนว่าหุ้นเติบโตมีแนวโน้มลดลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ในบรรดาดัชนีกลุ่มหลัก 11 รายการใน S&P 500 เทคโนโลยีเป็นผู้นำในการร่วงลงที่ 2.9% ขณะที่ดัชนีการเงินพุ่งขึ้น 1.2%
ดัชนีราคาผู้ผลิตและราคาผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้น ตลอดจนการแพร่กระจายของ Omicron ทำให้เกิดความวิตกกังวล อย่างไรก็ตาม S&P 500 ยังคงเพิ่มขึ้นประมาณ 25% ในปี 2564 และมีการซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนีความผันผวน CBOE ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการการว่างงานครั้งใหม่เพิ่มขึ้นในระดับปานกลางในสัปดาห์ที่แล้ว การผลิตในโรงงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนพฤศจิกายน
S&P 500 ทำสถิติสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ใหม่ 69 ครั้งและระดับต่ำสุดใหม่ 3 ครั้ง Nasdaq Composite ทำสถิติสูงสุดใหม่ 43 ครั้งและระดับต่ำสุดใหม่ 184 ครั้ง
ปริมาณการแลกเปลี่ยนในสหรัฐฯ อยู่ที่ 11.6 พันล้านหุ้นใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในช่วง 20 วันทำการล่าสุด
แหล่งข่าว Nasdaq closes sharply lower as investors dump growth stocks โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand