'กรณ์ ณรงค์เดช' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RML ให้สัมภาษณ์พิเศษ 'หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ' ว่า ภารกิจท้าทายแรกคือ นำทัพใหญ่ 'รีแบรนดิ้ง' RML โดยปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีความทันสมัยมากขึ้น เดิมเอ่ยถึงไรมอนแลนด์ลูกค้าส่วนใหญ่คิดถึง 'ความหรูหราระดับผู้ใหญ่ แต่จับต้องไม่ได้'
โดยลูกค้ากลุ่มใหม่ที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญคือ 'เศรษฐีอายุน้อย' อายุเฉลี่ย 20-35 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นอายุน้อยที่มีพอร์ตการลงทุนใน 'สินทรัพย์ดิจิทัล' (Digital Asset) อย่าง บิทคอยน์ (Bitcoin) , ธุรกิจสตาร์อัพ , คริปโตเคอเรนซี่ เป็นต้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ได้เข้ามาเป็นฐานลูกค้าใหม่ของบริษัทมากยิ่งขึ้น
อีกทั้ง บริษัทวางแผนส่งเสริมการขาย ด้วยการจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ และเน้นขายผ่านช่องทาง Online ด้วยกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) เพื่อให้ลูกค้าสามารถรับชมโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ผ่านระบบ Online ก่อนตัดสินใจเข้าชมโครงการจริง เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อและเข้าถึงลูกค้าโดยตรง ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายโครงการได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับแผนธุรกิจของบริษัทยังหันมาเน้น 'กระจายความเสี่ยง' ของธุรกิจ ด้วยการสร้างพอร์ต 'รายได้ประจำ' (Recurring Income) ที่สร้างสินทรัพย์ที่มั่นคงด้านรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าหมายภายใน 3-5 ปี (2565-2569) สัดส่วนพอร์ตรายได้ประจำ (ค่าเช่า) อยู่ที่ 30% ของรายได้รวม
โดยโครงการแรกที่จะมีโอกาสเข้ามาเป็นรายได้ประจำเข้ามาคือ โครงการอาคารสำนักงานเกรดเอ ในย่านสุขุมวิท ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้างคือ “โครงการ วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์” (One City Centre–OCC) และอีกหนึ่ง 'ธุรกิจใหม่' (New Business) ที่จะเข้ามาเป็นรายได้ประจำคือ 'ธุรกิจโรงแรม' ที่ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพาร์เนอร์ร่วมลงทุนสร้างโรงแรม
แห่งใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.)
ขณะที่ ในปี 2564 บริษัทจะมีการเปิดโครงการใหม่จำนวน 3 แห่ง มูลค่ารวม 'หมื่นล้านบาท' ซึ่งเป็นโครงการใหม่ภายใต้ดีเอ็นเอของไรมอนแลนด์ยุคใหม่ ดังนั้น ทิศทางผลประกอบการของบริษัทจะกลับมา 'เทิร์นอะราวด์' (พลิกบวก) แน่นอน หลังจากปี 2563 พลิกขาดทุนสุทธิ 718.30 ล้านบาท และมีรายได้ 3,173.27 ล้านบาท
แหล่งข่าว RML รุก 'เศรษฐีวัยรุ่น' รวยสินทรัพย์ดิจิทัล ดันกำไร 'เทิร์นอะราวด์', bangkokbiznews, 03 พ.ค. 2564