ภาคพลังงานเพิ่มขึ้น 3.1% เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และทำให้ S&P 500 เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบกว่าสามสัปดาห์และดาวโจนส์ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนในวันอังคาร หุ้นอุตสาหกรรมทำผลงานดีที่สุดอันดับที่สอง โดยเพิ่มขึ้น 0.8% กิจกรรมโรงงานในประเทศขยายตัวต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตยังคงชะลอตัวลงอย่างมากจากผลกระทบของพายุเฮอริเคนไอดาและการกลับมาของไวรัส
การอ่านข้อมูลทางเศรษฐกิจในปัจจุบัจากทั่วโลก รวมถึงยอดค้าปลีกของจีนและการเติบโตที่ชะลอตัวของ CPI ในสหรัฐฯ ได้ชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 อาจไม่โดดเด่นอย่างที่คิดในตอนแรก
Randy Frederick กรรมการผู้จัดการฝ่ายการค้าและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของ Schwab Center กล่าวว่า "กิจกรรมทางเศรษฐกิจอ่อนตัวลงทั่วโลก จากการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่" "เราอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ตลาดมีแนวโน้มที่จะอ่อนไหวต่อข่าวทุกประเภท"
เมื่อเวลา 11:56 น. ET ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 92.87 จุดหรือ 0.27% เป็น 34,670.44 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 11.10 จุดหรือ 0.25% สู่ 4,454.15 จุด และ Nasdaq Composite (.IXIC) ลดลง 9.66 จุดหรือ 0.06 % ถึง 15,028.10 จุด
สัปดาห์นี้หุ้นร่วงลงจากข่าวการขึ้นภาษีนิติบุคคลของรัฐบาลสหรัฐ หุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ขาดทุนต่อเนื่องหลังจากยอดค้าปลีกของจีนต่ำกว่าคาดการณ์ ขณะที่ วิกฤตหนี้ของ Evergrande Group กำลังสร้างความกังวลต่อผู้ให้กู้รายใหญ่
หุ้น Apple Inc ร่วงลง 0.6% หลังจากร่วง 1% ในเซสชั่นก่อนหน้า GreenSky Inc เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% หลังจาก Goldman Sachs Group Inc กล่าวว่าจะซื้อบริษัทในข้อตกลงหุ้น (stock deal) ทั้งหมดมูลค่า 2.24 พันล้านดอลลาร์ หุ้น Goldman Sachs ร่วงลง 1% แซงหน้ากลุ่มธนาคารอื่น ๆ
S&P 500 ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 52 สัปดาห์ 2 จุดและระดับต่ำสุดใหม่ 2 จุด ขณะที่ Nasdaq ทำจุดสูงสุดใหม่ 61 จุดและจุดต่ำสุดใหม่ 100 จุด
แหล่งข่าว S&P 500, Dow gain on factory data, strong oil prices โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand