ดัชนี S&P 500 ทำสถิติใหม่ระหว่างวันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในเร็วนี้ ดัชนีเพิ่มขึ้นประมาณ 0.2% หลังจากแตะระดับสูงสุดใหม่ในช่วงก่อนหน้านี้ ดาวโจนส์เพิ่มขึ้นประมาณ 30 จุดหรือ 0.09% Nasdaq Composite เพิ่มขึ้นประมาณ 0.2% เนื่องจากหุ้นของ Apple ทำสถิติสูงสุดตลอดกาล
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงหลังจากถ้อยแถลงของเฟดต่อสภา โดยยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แม้ดัชนี PPI และ CPI สูงกว่าที่คาดไว้
หุ้นของ Apple พุ่งขึ้นประมาณ 2% หลังจากที่บริษัทรายงานว่าขอให้ซัพพลายเออร์เพิ่มการผลิต iPhone รุ่นต่อไปอีก 20% โดยJPMorgan ยังเพิ่มยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในรายการโฟกัสและเพิ่มราคาเป้าหมายในหุ้นที่ upside 20%
รายงานผลประกอบการไตรมาสสองจากธนาคารขนาดใหญ่และบริษัทใหญ่อื่นๆ ยังคงดำเนินต่อไปในวันพุธ แต่ไม่ได้นำไปสู่การขยับตัวของหุ้นหลักแม้ผลประกอบการจะออกมาดีเกินคาดก็ตาม บริษัทใน S&P 500 ทั้งหมด 12 แห่งที่ประกาศผลประกอบการรายไตรมาสในสัปดาห์นี้ทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ต่อกำไรต่อหุ้น แต่กลุ่มบริษัทมีค่าเฉลี่ยลดลง 0.56% หลังจากรายงาน
S&P 500 เพิ่มขึ้นมากกว่า 16% ในปี 2564 และมากกว่า 37% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าอาจมีการกำหนดราคาหุ้น ทั้งนี้ การเติบโตของกำไร S&P 500 คาดว่าจะอยู่ที่ 64% เมื่อเทียบเป็นรายปีสำหรับไตรมาสนี้ ตามการประมาณการของนักวิเคราะห์ที่รวบรวมโดย FactSet
แหล่งข่าว S&P 500 hits record as the Fed stays the course with easy policy, Apple reaches all-time high โดย CNBC
แปลโดยทีม TradersThailand