หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTTEP ปิด 146.50 บาท บวก 0.50 บาท, KBANK ปิด 157.50 บาท ลบ 2 บาท, BANPU ปิด 11.30 บาท ลบ 0.40 บาท, TOP ปิด 52.75 บาท บวก 2.50 บาท, PTT ปิด 38.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
บล.ไทยพาณิชย์ มองหุ้นไทยฟื้นหลังมีความหวังสงครามรัสเซีย-ยูเครน จะหาทางออกและยุติได้โดยเร็ว จากการเจรจาสันติภาพที่มีความคืบหน้า โดยตลาดหุ้นฟื้นตัวเด่น ส่วนดอลลาร์ และทองคำปรับลงแรง แม้สงครามยังไม่ยุติ แต่ตลาดหุ้นที่เริ่มกลับมามีความคาดหวังเชิงบวก หลังการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความคืบหน้า
ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนช่วงนี้ จึงแนะนำ Selective Buy ในหุ้นที่คาดว่าฟื้นตัวได้ดีและได้รับผลกระทบจำกัดจากต้นทุนพลังงานที่ปรับขึ้นแรง โดยให้คงน้ำหนักพอร์ตไว้ที่ 50% และ Let Profit Run สำหรับหุ้นที่ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเติบโตดี มีผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายนอกอย่าง KBANK-AMATA-LH -GULF-ADVANC -ONEE
ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและมองว่าสถานการณ์ในยูเครนใกล้ยุติ แนะนำเก็งกำไร 25% ของพอร์ตในหุ้นที่คาดฟื้นตัวได้ดีดังนี้ DELTA-MINT-GULF-AMATA-KBANK-IVL
ขณะที่นักลงทุนระยะกลาง ที่พิจารณาปัจจัยพื้นฐาน ให้หาจังหวะเข้าซื้อหุ้นที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากต้นทุนพลังงานเพิ่มขึ้นและมี Pricing Power สูง BDMS-BJC-ADVANC-CPALL
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังการลงทุน หรือลดน้ำหนักการถือครองลง สำหรับหุ้นที่คาดว่าได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัย (เกิน 5%) จากต้นทุนพลังงานที่ปรับขึ้นแรง อย่าง KEX-AAV-EPG-SCCC- STANLY-BGRIM-DCC-SCC-GPSC-CBG-SCGP-OSP
นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้น KBANK คาดได้อานิสงส์จาก Bond Yield สหรัฐฯบวกขึ้นอีกทั้งปี 65 กำไรยังฟื้นตัวได้ดีและเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้ง รวมทั้งหุ้น PSL ที่ได้อานิสงส์ดัชนี BDI
ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน ค่าระวางเรือมีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อ หลังการปิดน่านฟ้ารัสเซียทำให้ค่าขนส่งทางอากาศพุ่งขึ้นแรง!!
แหล่งข่าว Selective Buy!!, ไทยรัฐ, 11 มี.ค. 2565