ลองดูที่หน้าจอ Market Watch บนแพลตฟอร์มการซื้อขายอีกที บนหน้าจอจะมีคอลัมน์สองแถบซึ่งแสดงราคาที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดด้วยสีสองสี เช่น ในคู่สกุล EUR / USD นั้น:
Bid 1.06838
Ask 1.06853
ราคา "Ask" คือ ราคาที่โบรกเกอร์พร้อมขาย จึงเป็นราคาที่ผู้ขายยอมซื้อด้วย
ราคา "Bid" คือ ราคาที่โบรกเกอร์พร้อมซื้อ จึงเป็นราคาที่ผู้ขายยอมขายด้วย
ดังนั้นแล้ว เมื่อเปิดสถานะซื้อ การขายจะเปิดที่ราคา Ask และปิดที่ราคา Bid ในขณะเดียวกัน ตำแหน่งขายจะเปิดที่ราคา Bid และปิดที่ราคา Ask ราคาพวกนี้เกี่ยวข้องกับ ‘’Spread’’
Spread คือ ค่าความแตกต่างระหว่างราคา Bid และ ราคา Ask ซึ่งป็นราคาที่ต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์เพื่อเปิดการขาย (ในบางแพลตฟอร์มนั้นอาจต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นด้วย)
การแลกเปลี่ยนค่าเงินก็เป็นไปตามหลักการเดียวกัน นั่นคือ หากคุณขายค่าเงินในราคาหนึ่งๆ และซื้อค่าเงินในอีกราคา จะเกิดคู่ราคาที่ใช้ในการอ้างอิงคู่สกุลเงิน โดยปกติแล้ว ราคา Ask จะสูงกว่าราคา Bid เพราะราคา Ask รวมค่า Spread ด้วย
Spread ในการขาย FX นั้น นับเป็นหน่วย pip โดยมูลค่ามีหน่วยทศนิยมก็ได้ เช่น 1.2 pips (มีคำอธิบายเกี่ยวกับ pip เพิ่มเติมหลังจากนี้)
เมื่อเปิดการขาย การขายจะเริ่มที่ PnL ติดลบที่ยังไม่ได้รับรู้ (กำไรและขาดทุน) จนกว่า Spread จะโผล่มาในชาร์ต (ค่าความแตกต่างระหว่างราคา Bid และ ราคา Ask) ยิ่งช่วงราคาของ Spread แคบเท่าใด ก็ยิ่งดีต่อผู้ขายเท่านั้น
ข้อสรุป
- FX ย่อมาจาก Foreign Exchange ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และมีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก
- แต่ละคู่สกุลเงินประกอบด้วยสกุลเงิน "ฐาน" (ฐานของการซื้อขาย) และสกุลเงิน "อ้างอิง" (ใช้ในการอ้างอิง)
- ราคาแสดงถึงมูลค่าแลกเปลี่ยนหนึ่งหน่วยของสกุลเงินฐาน - การซื้อคู่สกุลเงินคือการซื้อสกุลเงินฐานและขายค่าเงินอ้างอิงไปในเวลาเดียวกัน หากเป็นการขายสกุลเงินก็ให้กลับกัน
- คู่สกุลเงินที่เป็นที่นิยมมากที่สุดเรียกว่า "majors" แสดงให้เห็นถึงอำนาจทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ของประเทศเจ้าของสกุลเงินนั้น
- ผู้ขาย "ซื้อ" ในราคา Ask และ ปิดการขายที่ราคา Bid ในทำนองเดียวกัน ผู้ขาย "ขาย" ในราคา Bid และ ปิดการขายที่ราคา Ask
- Spread คือค่าความแตกต่างระหว่างราคา Ask และราคา Bid
ข้อมูลจาก Tradersthailand
Bid 1.06838
Ask 1.06853
ราคา "Ask" คือ ราคาที่โบรกเกอร์พร้อมขาย จึงเป็นราคาที่ผู้ขายยอมซื้อด้วย
ราคา "Bid" คือ ราคาที่โบรกเกอร์พร้อมซื้อ จึงเป็นราคาที่ผู้ขายยอมขายด้วย
ดังนั้นแล้ว เมื่อเปิดสถานะซื้อ การขายจะเปิดที่ราคา Ask และปิดที่ราคา Bid ในขณะเดียวกัน ตำแหน่งขายจะเปิดที่ราคา Bid และปิดที่ราคา Ask ราคาพวกนี้เกี่ยวข้องกับ ‘’Spread’’
Spread คือ ค่าความแตกต่างระหว่างราคา Bid และ ราคา Ask ซึ่งป็นราคาที่ต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์เพื่อเปิดการขาย (ในบางแพลตฟอร์มนั้นอาจต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นด้วย)
การแลกเปลี่ยนค่าเงินก็เป็นไปตามหลักการเดียวกัน นั่นคือ หากคุณขายค่าเงินในราคาหนึ่งๆ และซื้อค่าเงินในอีกราคา จะเกิดคู่ราคาที่ใช้ในการอ้างอิงคู่สกุลเงิน โดยปกติแล้ว ราคา Ask จะสูงกว่าราคา Bid เพราะราคา Ask รวมค่า Spread ด้วย
Spread ในการขาย FX นั้น นับเป็นหน่วย pip โดยมูลค่ามีหน่วยทศนิยมก็ได้ เช่น 1.2 pips (มีคำอธิบายเกี่ยวกับ pip เพิ่มเติมหลังจากนี้)
เมื่อเปิดการขาย การขายจะเริ่มที่ PnL ติดลบที่ยังไม่ได้รับรู้ (กำไรและขาดทุน) จนกว่า Spread จะโผล่มาในชาร์ต (ค่าความแตกต่างระหว่างราคา Bid และ ราคา Ask) ยิ่งช่วงราคาของ Spread แคบเท่าใด ก็ยิ่งดีต่อผู้ขายเท่านั้น
ข้อสรุป
- FX ย่อมาจาก Foreign Exchange ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และมีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก
- แต่ละคู่สกุลเงินประกอบด้วยสกุลเงิน "ฐาน" (ฐานของการซื้อขาย) และสกุลเงิน "อ้างอิง" (ใช้ในการอ้างอิง)
- ราคาแสดงถึงมูลค่าแลกเปลี่ยนหนึ่งหน่วยของสกุลเงินฐาน - การซื้อคู่สกุลเงินคือการซื้อสกุลเงินฐานและขายค่าเงินอ้างอิงไปในเวลาเดียวกัน หากเป็นการขายสกุลเงินก็ให้กลับกัน
- คู่สกุลเงินที่เป็นที่นิยมมากที่สุดเรียกว่า "majors" แสดงให้เห็นถึงอำนาจทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ของประเทศเจ้าของสกุลเงินนั้น
- ผู้ขาย "ซื้อ" ในราคา Ask และ ปิดการขายที่ราคา Bid ในทำนองเดียวกัน ผู้ขาย "ขาย" ในราคา Bid และ ปิดการขายที่ราคา Ask
- Spread คือค่าความแตกต่างระหว่างราคา Ask และราคา Bid
ข้อมูลจาก Tradersthailand
Last edited: