หุ้นยุโรปปิดแคบลงในวันศุกร์จากข้อมูล GDP ที่ลดลง แต่ทำกำไรรอบเดือนต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
STOXX 600 ลดลง 0.3% แต่ปิดบวก 1.8% ของรอบเดือน
เศรษฐกิจยูโรโซนตกอยู่ในภาวะถดถอยทางเทคนิคครั้งที่สอง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มเตรียมพร้อมที่จะฟื้นตัวเนื่องจากการแพร่ระบาดจากการฉีดวัคซีนที่ต่อเนื่อง
เศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวมากกว่าที่คาด 1.7% จากการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ ขณะที่ เศรษฐกิจฝรั่งเศสเติบโตเกินคาด
ในด้านผลประกอบการที่แข็งแกร่งสะท้อนว่าบรรดาบริษัทในยูโรโซนอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากผลกระทบของการระบาด
AstraZeneca เพิ่มขึ้น 4.3% จากผลประกอบการที่ดีเกินคาดและคาดการณ์ในช่วงครึ่งหลังของปี Swedish Match เพิ่มขึ้น 0.7% รายงานผลกำไรในไตรมาสแรกที่สูงเกินคาด เช่นเดียวกับ British American Tobacco และ Imperial Brands เพิ่มขึ้นมากกว่า 2% เป็นต้น ส่งผลให้ภาพรวมของผลประกอบการในยุโรปแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้มาก
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากบริษัทในสหราชอาณาจักรยังช่วยให้กลุ่มผู้ค้าปลีกในยุโรปแซงหน้าคู่แข่งในเดือน เม.ย. ที่บวก 6.7% ขณะที่ สต็อกรถยนต์ชะลอตัวเนื่องจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกส่งผลกระทบต่อการผลิต
หุ้นกลุ่มธนาคารได้รับแรงกดดันในวันศุกร์เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนที่ผ่อนคลายลงจากระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2563 แต่ยังคงทำกำไรเกือบ 6% ในสัปดาห์จากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
Barclays ร่วงลง 7% แม้จะรายงานผลกำไรรายไตรมาสที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า ขณะที่ BNP Paribas ของฝรั่งเศสลดลง 0.8% จากต้นทุนที่สูงขึ้น Banco Sabadell ของสเปนพุ่งขึ้น 8.7% สู่จุดสูงสุดของ STOXX 600 หลังจากผลกำไรรายไตรมาสสูงเกินความคาดหมายของตลาดโดยได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของ TSB ในอังกฤษ
แหล่งข่าว Europe's STOXX 600 marks third month of gains on earnings, recovery hopes โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand