นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ YLG เปิดเผยว่า ความผันผวนของค่าเงิน โดยเฉพาะในปี 2565 ที่ค่าเงินบาทยังมีความผันผวน และมีความเสี่ยง
ตามสถิติของ Gold Price and annual return in key currencies ในช่วงปี 2012-2021 พบว่ามีถึง 4 ปี จาก 10 ปี ที่ราคาทองคำสกุลเงินบาทต่อ 1 ทรอยออนซ์ ให้ผลตอบแทนที่แย่กว่า (Worst Performance : W) เมื่อเทียบกับราคาทองคำที่เป็นสกุลอื่นๆ ทั้ง สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ, สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์, สกุลเงินหยวน และสกุลเงินยูโร
ดังนั้น ความผันผวนในเรื่องของสกุลเงิน จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่นักลงทุนสามารถใช้มาเป็นเกณฑ์ในการกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุนในทองคำได้
ส่วนแนวโน้มการเคลื่อนไหวของทองคำในช่วงนี้ ราคาอยู่ในช่วงของการปรับฐานลง หลังจากทดสอบกรอบบนใกล้โซนแนวต้านจิตวิทยาบริเวณ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ ทำให้นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังในการถือครองสถานะทองคำ
จึงแนะนำให้นักลงทุนเน้นลงในกำไรระยะสั้นขึ้นขาย-ลงซื้อ โดยมีกรอบแนวต้านแรกที่ 1,897-1,915 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีจุดชะลอขายหากราคาผ่าน 1,915 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับจุดซื้อควรรอการตั้งฐานของราคาบริเวณแนวรับที่ 1,873-1,854 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำในประเทศมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 30,250-31,250 บาทต่อบาททองคำ
แหล่งข่าว YLG คาดทองในประเทศมีจังหวะทำกำไรจากความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน, bangkokbiznews, 28 เม.ย. 2565