เงินหยวนในสัปดาห์ที่แล้วแตะระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนและขาดทุนสะสมของเงินเยนเมื่อเทียบเป็นรายปีแตะ 5% เงินดอลลาร์ยังแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงิน G10 ที่เป็นคู่แข่งกัน แต่เฟดยังคงคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าธนาคารกลางรายใหญ่อื่นๆในโลกในปีนี้ การเพิ่มขึ้นของหุ้นทั่วโลกได้รับแรงหนุนจากผู้ผลิตชิปของไต้หวัน Taiwan Semiconductor Manufacturing (TSMC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาคาดการณ์ว่ารายรับจะเติบโตมากกว่า 20% ในปี 2567 จากความต้องการชิประดับไฮเอนด์ที่ใช้ใน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น ดัชนี MSCI Asia Pacific ex-Japan เพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ในวันศุกร์ แต่ยังคงลดลงเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน และลดลงมากกว่า 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
หุ้นจีนร่วงลงต่ำสุดในรอบ 5 ปี ชาวต่างชาติกำลังดึงเงินออกจากประเทศและเงินหยวนก็ร่วงลง ปักกิ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันที่จะต้องดำเนินการแต่ก็กังวลเกี่ยวกับหนี้สินและความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ธนาคารกลางคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะเวลา 1 และ 5 ปี (LPR) ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 3.45% และ 4.20% ตามลำดับ ทำให้นักลงทุนผิดหวังอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน BOJ คาดว่าจะคงนโยบายไว้ไม่เปลี่ยนแปลงในวันอังคาร และเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องไปสู่เป้าหมาย 2% ของ BOJ ความกดดันในการทำให้นโยบายเป็นปกติและเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยที่ติดลบเป็นบวกก็เริ่มลดลง เงินเยนอยู่ในแนวรับ และถึงแม้จะมีการขายทำกำไรหลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปี หุ้นญี่ปุ่นก็อาจจะปรับตัวขึ้นอีกครั้งในวันจันทร์
แหล่งข่าว Morning Bid: China rate decision set to disappoint โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand