คู่สกุลเงินหลักในตลาด Forex คืออะไร
แม้จะมีความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับคู่สกุลเงินหลักในตลาด Forex แต่ส่วนใหญ่มักจะกล่าวถึง ' 4 สกุลเงิน' ที่เป็นสกุลเงินหลักดั้งเดิม ได้แก่ EUR/USD USD/JPY GBP/USD และ USD/CHF รวมทั้ง 'Commodity Currencies’ ที่มีการซื้อขายมากที่สุด 3 สกุลเทียบกับดอลลาร์สหรัฐง ได้แก่ AUD/ USD USD/CAD และ NZD/USD นอกจากนี้ เทรดเดอร์บางรายจะรวมการจับคู่สกุลเงินหลักที่ไม่มีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเลยหรือที่เรียกว่า "Cross Currencies" ในรายการสกุลเงินหลัก ซึ่งที่มีการซื้อขายมากที่สุด ได้แก่ GBP/EUR EUR/CHF และ EUR/JPY และข้อมูลเพิ่มเติมดังตารางต่อไปนี้
4 สกุลเงินหลักดั้งเดิม
คู่สกุลเงินหลักดั้งเดิม ได้แก่ EUR/USD USD/JPY GBP/USD และ USD/CHF อย่างไรก็ตาม สกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแง่ของปริมาณการซื้อขายอาจจะไม่นับเป็นคู่หลัก เช่น ในปัจจุบัน AUD/ USD เป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก แต่ก็ไม่ถูกนับเป็นคู่สกุลเงินหลักดังคู่สกุลเงินที่กล่าวข้างต้น
การเทรด EUR/USD
EUR/USD เป็นคู่ฟอเร็กซ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก โดยจะถือเงินยูโรเป็นสกุลเงินหลักและดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินอ้างอิง ดังนั้นราคาจะแสดงจำนวนดอลลาร์ที่ใช้เพื่อซื้อหนึ่งยูโร ตัวอย่างเช่น หาก Price quoted EUR / USD คือ 1.2500 คุณจะต้องใช้จ่าย 1.25 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อ €1 ยูโร คู่สกุลเงิน EUR / USD ได้รับความนิยมเนื่องจากมีสภาพคล่องสูง Spread ต่ำ มีความผันผวนน้อยกว่าคู่สกุลเงินอื่น ๆ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความผันผวนเลย เพราะอาจมีสถานการณ์ความไม่แน่นอนจากแวดล้อม เช่น กรณี Brexit หรือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน เป็นต้น
การเทรด USD/JPY
สิ่งแรกที่ผู้ค้าจำนวนมากจะสังเกตเห็นเกี่ยวกับ USD/JPY คือ มูลค่าของ pip เดียวนั้นมากกว่าสกุลเงินอื่น ๆ โดยมักจะถูกยกมาเป็นทศนิยมสองตำแหน่งเท่านั้น และเป็นเช่นนี้กับคู่สกุลเงินอื่น ๆ ที่เยนปรากฏเป็นสกุลเงินอ้างอิง เนื่องจากค่าเงินเยนที่จะต่ำเมื่อเทียบกับดอลลาร์
ทั้งนี้ เป็นผลจากนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณและอัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคารกลางญี่ปุ่นเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำและการเติบโตที่ช้าซึ่งส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในญี่ปุ่นใกล้ศูนย์หรือติดลบในหลายจุดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เงินเยนจึงมักถูกเทรดแบบ One haft Carry Trade ที่นักเทรดจะยืมเงินในประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและลงทุนในประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า นอกจากนี้ เงินเยนยังเป็น "ที่หลบภัย" ซึ่งมักจะมีการเพิ่มขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจไม่นิ่ง และ USD / JPY ยังมีความเกี่ยวโยงกับ USD / CHF ซึ่งอธิบายเพิ่มเติมไว้ที่ข้อ 4.
การเทรด GBP/USD
คู่สกุลเงิน GBP/USD มีเงินปอนด์เป็นสกุลเงินหลักและดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินอ้างอิง ซึ่งจะแสดงจำนวนดอลลาร์ที่คุณต้องใช้เพื่อซื้อหนึ่งปอนด์ โดย GBP/USD ถูกขนานนามว่าเป็น "สายเคเบิล" เนื่องจากใช้ในการโอนข้อมูลราคาระหว่างลอนดอนและนิวยอร์ก และช่วงที่สภาพคล่องมากที่สุดของคู่ที่อยู่ในช่วง14:00 น. (ตามเวลาสหราชอาณาจักร) เนื่องจากส่วนเป็นช่วงเวลาที่มีความเคลื่อนไหวของเทรดเดอร์ทั้งในลอนดอนและนิวยอร์กมากที่สุด
การเทรด USD / CHF
การปรากฏตัวของฟรังก์สวิสในสี่สกุลเงินชั้นนำอาจดูแปลกเล็กน้อยเพราะสวิตเซอร์แลนด์ไม่ใช่ฐานเศรษฐกิจที่สำคัญของ โลก อย่างไรก็ตาม ฟรังก์สวิสได้รับความนิยมอย่างมากในฐานะสกุลเงินลงทุนที่ปลอดภัยเช่นเดียวกับเงินเยน ซึ่งทำได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนหรือความวุ่นวายในตลาด ซึ่งคล้ายกับคู่ USD/JPY
อนึ่ง สวิตเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงอย่างยาวนานในด้านความมั่นคงทางการเงิน ความปลอดภัย และความเป็นกลาง นอกจากนี้ เมื่อความผันผวนของตลาดอยู่ในระดับต่ำ ฟรังก์สวิสมักจะมีแนวโน้มเป็นไปตามความเคลื่อนไหวของตลาดเงินยูโร เนื่องจากความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกันระหว่างสวิตเซอร์แลนด์มีกับยูโรโซน
Commodity currencies หรือสกุลเงินประเทศกำลังพัฒนา
เป็นสกุลเงินที่มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับราคา Commodity ซึ่งในแวดวงการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนหากพูดถึง Commodity Currency ส่วนมากจะหมายถึง AUD/USD USD/CAD NZD/USD
การเทรด AUD/USD
หากคุณต้องการเทรด AUD / USD จะต้องจับตาดูมูลค่าของถ่านหินและแร่เหล็กในตลาด Commodity รวมถึงโลหะอื่น ๆ เช่น ทองแดง เนื่องจากความผันผวนใด ๆ ในมูลค่าของสินค้าเหล่านี้อาจทำให้เกิดความผันผวนซึ่งกันและกันในมูลค่าของดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับ Commodity currencies อื่น ๆ
มูลค่าของดอลลาร์สหรัฐมีผลต่อการกำหนดราคาของคู่สกุลเงิน AUD/USD อย่างมาก เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น การส่งออกของออสเตรเลียก็จะมีถูกลงซึ่งสามารถลดมูลค่าของดอลลาร์ออสเตรเลีย และหมายความว่าผู้ผลิตในออสเตรเลียได้รับเงินน้อยที่ลง
การเทรด USD/CAD
CAD มักเชื่อมโยงกับราคาน้ำมัน เนื่องจากน้ำมันเป็นสินค้าส่งออกหลักของแคนาดา ด้วยเหตุนี้หากราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลง ซึ่งเพราะการเปลี่ยนแปลงโควต้าการผลิตของโอเปก ราคาของดอลลาร์แคนาดาก็จะได้รับผลกระทบ
ตัวอย่างเช่น หากอุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้นโดย OPEC ราคาน้ำมันก็มีแนวโน้มที่จะลดลง CAD ก็จะลดลง เนื่องจากน้ำมันมีราคาในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ การลดลงของมูลค่าน้ำมันจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เช่นเดียวกับคู่เงิน AUD/ USD
การเทรด NZD/USD
สกุลเงิน Commodity currencies สุดท้าย คือ NZD/USD คือดอลลาร์นิวซีแลนด์กับดอลลาร์สหรัฐหรือเรียกอีกอย่างว่า "Kiwi" การเกษตร การค้าและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเป็นปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจนิวซีแลนด์ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของราคาสินค้า Commodity ที่อ่อนตัวมักจะกระทบกับ NZD / USD
เช่นเดียวกับคู่สกุลเงินอื่น ๆ บทบาทของธนาคารกลางก็เป็นปัจจัยสำคัญ โดยธนาคารกลางนิวซีแลนด์กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่อาจมีผลกระทบต่อ NZD/USD หรือไม่สอดคล้องกับธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งนักเทรดจะต้องทราบเกี่ยวกับนโยบายการเงินที่แตกต่างกันของธนาคารกลางทั้งสองแห่งก่อนที่จะเปิด Positon ในคู่นี้
การข้ามสกุลเงิน หรือ Cross
Cross คือคู่ที่ไม่มีดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนักเทรดบางรายอาจไม่รวมคู่เหล่านี้ในชุดของสกุลเงินหลัก ซึ่งในบทความนี้อาจถือเป็น สกุลเงินหลักในบางครั้ง เนื่องจากมีการเทรดที่สูง ได้แก่ GBP/EUR EUR/CHF EUR/JPY ซึ่งเป็นคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องมากที่สุด เนื่องจากเป็นการผสมผสานกันของสกุลเงินดั้งเดิม
การเทรด GBP/EUR
GBP/EUR เป็นคู่สกุลเงินหลักที่ใช้ดูความสัมพันธ์ GBP/EUR ที่มีความผันผวนอย่างมาก นับตั้งแต่กรณี Brexi ชื่อเล่นของคู่สกุลเงินนี้เรียกกว่า 'chunnel' ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างสหราชอาณาจักรและยุโรปผ่าน Channel Tunnel ทั้งนี้GBP/EUR มีแนวโน้มที่จะทำกำไรทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจนกว่า Brexit จะสิ้นสุด
การเทรด EUR/CHF
เช่นเดียวกับ GBP/EUR หรือ USD/CAD คู่สกุลเงิน EUR/CHF สะท้อนถึงเศรษฐกิจของสองประเทศที่เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด ในบทความนี้ EUR/CHF อาจประเมินว่าเป็นคู่ที่ค่อนข้างคงที่เช่นเดียวกับสกุลเงินของสวิตเซอร์แลนด์
ตัวอย่างของเสถียรภาพของฟรังก์ที่เกี่ยวข้องกับเงินยูโรจากวิกฤตหนี้ยุโรปในปี 2551 ส่งผลให้เงินฟรังก์แข็งค่าขึ้นจากซื้อที่เพิ่มของของนักลงทุนเพื่อปกป้องเงินทุน
การเทรด EUR/JPY
ในฐานะที่เป็นสกุลเงินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ยูโรเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการจับคู่กับเงินเยน ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างมากจากปริมาณการซื้อขาย JPY รวมถึงความเชื่อมั่นของตลาด โดยช่วงที่ EUR/JPY มีสภาพคล่องมากที่สุดอยู่ระหว่าง 8.00 น.-15.00 น. (ตามเวลาสหราชอาณาจักร) อย่างไรก็ตาม แม้ EUR/JPY มีความผันผวนค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบแต่ยังมีพื้นที่พอที่จะทำกำไรได้
อะไรมีผลต่อราคาของคู่ forex?
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา forex ทุกคู่ อาทิ อัตราดอกเบี้ย ความไม่แน่นอนจากภูมิศาสตร์การเมืองโลก ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ และระดับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในประเทศ
อัตราดอกเบี้ย ถูกควบคุมโดยนโยบายการเงินของธนาคารกลางของสกุลเงินนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น หากธนาคารกลางสหรัฐฯ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมักจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรทำให้ราคาของ EUR/USD ลดลง โดยนักลงทุนมักจะนิยมประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า เนื่องจากนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าจากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ความไม่แน่นอนจากภูมิศาสตร์การเมืองโลก นักลงทุนและผู้ค้าสูญเสียความเชื่อมั่นในความสามารถของประเทศในการปกครองหรือแนวโน้มของเศรษฐกิจที่อาจตกต่ำได้ในอนาคตซึ่งอาจส่งผลให้สกุลเงินนั้นซบเซาหรือมีความผันผวนเกินกว่าจะซื้อขายได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความต้องการความเสี่ยงของผู้ซื้อขายแต่ละรายโดยผู้ค้าบางรายเลือกตลาดที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยเพื่อเป็นโอกาสในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาคู่สกุลเงินหลักมักไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวมากนัก แม้จะมีกรณี Brexit
FDI อาจส่งผลต่อราคาของคู่สกุลเงินเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ FDI สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มากขึ้นในเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศนั้น ๆ ในทางกลับกันก็สามารถเพิ่มความต้องการสำหรับสกุลเงินของประเทศนั้นซึ่งจะทำให้ราคาสูงขึ้นด้วย
ตัวอย่างเช่น หากมีการเพิ่มขึ้นของ FDI อย่างมีนัยสำคัญในเศรษฐกิจสหรัฐฯ มูลค่าของดอลลาร์สหรัฐก็อาจจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นที่จับคู่ด้วย
เพราะความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจของประเทศและระดับ FDI มักมีความสัมพันธ์กันโดยตรง
วิธีการเทรด คู่เงิน Forex ที่สำคัญ
- ศึกษาคู่สกุลเงินที่ต้องเทรด
- ทำการวิเคราะห์คู่ Forex ทั้งทางเทคนิคและพื้นฐาน
- เลือกกลยุทธ์การเทรดและตรวจสอบว่าคุณพอใจกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- จากนั้น สร้างบัญชีและฝากเงิน
- เปิด Monitor แล้วจึงปิด Position แรกของคุณ
ข้อมูลจากทีม Tradersthailand
แม้จะมีความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับคู่สกุลเงินหลักในตลาด Forex แต่ส่วนใหญ่มักจะกล่าวถึง ' 4 สกุลเงิน' ที่เป็นสกุลเงินหลักดั้งเดิม ได้แก่ EUR/USD USD/JPY GBP/USD และ USD/CHF รวมทั้ง 'Commodity Currencies’ ที่มีการซื้อขายมากที่สุด 3 สกุลเทียบกับดอลลาร์สหรัฐง ได้แก่ AUD/ USD USD/CAD และ NZD/USD นอกจากนี้ เทรดเดอร์บางรายจะรวมการจับคู่สกุลเงินหลักที่ไม่มีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเลยหรือที่เรียกว่า "Cross Currencies" ในรายการสกุลเงินหลัก ซึ่งที่มีการซื้อขายมากที่สุด ได้แก่ GBP/EUR EUR/CHF และ EUR/JPY และข้อมูลเพิ่มเติมดังตารางต่อไปนี้
4 สกุลเงินหลักดั้งเดิม
คู่สกุลเงินหลักดั้งเดิม ได้แก่ EUR/USD USD/JPY GBP/USD และ USD/CHF อย่างไรก็ตาม สกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแง่ของปริมาณการซื้อขายอาจจะไม่นับเป็นคู่หลัก เช่น ในปัจจุบัน AUD/ USD เป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก แต่ก็ไม่ถูกนับเป็นคู่สกุลเงินหลักดังคู่สกุลเงินที่กล่าวข้างต้น
การเทรด EUR/USD
EUR/USD เป็นคู่ฟอเร็กซ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก โดยจะถือเงินยูโรเป็นสกุลเงินหลักและดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินอ้างอิง ดังนั้นราคาจะแสดงจำนวนดอลลาร์ที่ใช้เพื่อซื้อหนึ่งยูโร ตัวอย่างเช่น หาก Price quoted EUR / USD คือ 1.2500 คุณจะต้องใช้จ่าย 1.25 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อ €1 ยูโร คู่สกุลเงิน EUR / USD ได้รับความนิยมเนื่องจากมีสภาพคล่องสูง Spread ต่ำ มีความผันผวนน้อยกว่าคู่สกุลเงินอื่น ๆ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความผันผวนเลย เพราะอาจมีสถานการณ์ความไม่แน่นอนจากแวดล้อม เช่น กรณี Brexit หรือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน เป็นต้น
การเทรด USD/JPY
สิ่งแรกที่ผู้ค้าจำนวนมากจะสังเกตเห็นเกี่ยวกับ USD/JPY คือ มูลค่าของ pip เดียวนั้นมากกว่าสกุลเงินอื่น ๆ โดยมักจะถูกยกมาเป็นทศนิยมสองตำแหน่งเท่านั้น และเป็นเช่นนี้กับคู่สกุลเงินอื่น ๆ ที่เยนปรากฏเป็นสกุลเงินอ้างอิง เนื่องจากค่าเงินเยนที่จะต่ำเมื่อเทียบกับดอลลาร์
ทั้งนี้ เป็นผลจากนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณและอัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคารกลางญี่ปุ่นเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำและการเติบโตที่ช้าซึ่งส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในญี่ปุ่นใกล้ศูนย์หรือติดลบในหลายจุดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เงินเยนจึงมักถูกเทรดแบบ One haft Carry Trade ที่นักเทรดจะยืมเงินในประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและลงทุนในประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า นอกจากนี้ เงินเยนยังเป็น "ที่หลบภัย" ซึ่งมักจะมีการเพิ่มขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจไม่นิ่ง และ USD / JPY ยังมีความเกี่ยวโยงกับ USD / CHF ซึ่งอธิบายเพิ่มเติมไว้ที่ข้อ 4.
การเทรด GBP/USD
คู่สกุลเงิน GBP/USD มีเงินปอนด์เป็นสกุลเงินหลักและดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินอ้างอิง ซึ่งจะแสดงจำนวนดอลลาร์ที่คุณต้องใช้เพื่อซื้อหนึ่งปอนด์ โดย GBP/USD ถูกขนานนามว่าเป็น "สายเคเบิล" เนื่องจากใช้ในการโอนข้อมูลราคาระหว่างลอนดอนและนิวยอร์ก และช่วงที่สภาพคล่องมากที่สุดของคู่ที่อยู่ในช่วง14:00 น. (ตามเวลาสหราชอาณาจักร) เนื่องจากส่วนเป็นช่วงเวลาที่มีความเคลื่อนไหวของเทรดเดอร์ทั้งในลอนดอนและนิวยอร์กมากที่สุด
การเทรด USD / CHF
การปรากฏตัวของฟรังก์สวิสในสี่สกุลเงินชั้นนำอาจดูแปลกเล็กน้อยเพราะสวิตเซอร์แลนด์ไม่ใช่ฐานเศรษฐกิจที่สำคัญของ โลก อย่างไรก็ตาม ฟรังก์สวิสได้รับความนิยมอย่างมากในฐานะสกุลเงินลงทุนที่ปลอดภัยเช่นเดียวกับเงินเยน ซึ่งทำได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนหรือความวุ่นวายในตลาด ซึ่งคล้ายกับคู่ USD/JPY
อนึ่ง สวิตเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงอย่างยาวนานในด้านความมั่นคงทางการเงิน ความปลอดภัย และความเป็นกลาง นอกจากนี้ เมื่อความผันผวนของตลาดอยู่ในระดับต่ำ ฟรังก์สวิสมักจะมีแนวโน้มเป็นไปตามความเคลื่อนไหวของตลาดเงินยูโร เนื่องจากความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกันระหว่างสวิตเซอร์แลนด์มีกับยูโรโซน
Commodity currencies หรือสกุลเงินประเทศกำลังพัฒนา
เป็นสกุลเงินที่มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับราคา Commodity ซึ่งในแวดวงการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนหากพูดถึง Commodity Currency ส่วนมากจะหมายถึง AUD/USD USD/CAD NZD/USD
การเทรด AUD/USD
หากคุณต้องการเทรด AUD / USD จะต้องจับตาดูมูลค่าของถ่านหินและแร่เหล็กในตลาด Commodity รวมถึงโลหะอื่น ๆ เช่น ทองแดง เนื่องจากความผันผวนใด ๆ ในมูลค่าของสินค้าเหล่านี้อาจทำให้เกิดความผันผวนซึ่งกันและกันในมูลค่าของดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับ Commodity currencies อื่น ๆ
มูลค่าของดอลลาร์สหรัฐมีผลต่อการกำหนดราคาของคู่สกุลเงิน AUD/USD อย่างมาก เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น การส่งออกของออสเตรเลียก็จะมีถูกลงซึ่งสามารถลดมูลค่าของดอลลาร์ออสเตรเลีย และหมายความว่าผู้ผลิตในออสเตรเลียได้รับเงินน้อยที่ลง
การเทรด USD/CAD
CAD มักเชื่อมโยงกับราคาน้ำมัน เนื่องจากน้ำมันเป็นสินค้าส่งออกหลักของแคนาดา ด้วยเหตุนี้หากราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลง ซึ่งเพราะการเปลี่ยนแปลงโควต้าการผลิตของโอเปก ราคาของดอลลาร์แคนาดาก็จะได้รับผลกระทบ
ตัวอย่างเช่น หากอุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้นโดย OPEC ราคาน้ำมันก็มีแนวโน้มที่จะลดลง CAD ก็จะลดลง เนื่องจากน้ำมันมีราคาในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ การลดลงของมูลค่าน้ำมันจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เช่นเดียวกับคู่เงิน AUD/ USD
การเทรด NZD/USD
สกุลเงิน Commodity currencies สุดท้าย คือ NZD/USD คือดอลลาร์นิวซีแลนด์กับดอลลาร์สหรัฐหรือเรียกอีกอย่างว่า "Kiwi" การเกษตร การค้าและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเป็นปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจนิวซีแลนด์ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของราคาสินค้า Commodity ที่อ่อนตัวมักจะกระทบกับ NZD / USD
เช่นเดียวกับคู่สกุลเงินอื่น ๆ บทบาทของธนาคารกลางก็เป็นปัจจัยสำคัญ โดยธนาคารกลางนิวซีแลนด์กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่อาจมีผลกระทบต่อ NZD/USD หรือไม่สอดคล้องกับธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งนักเทรดจะต้องทราบเกี่ยวกับนโยบายการเงินที่แตกต่างกันของธนาคารกลางทั้งสองแห่งก่อนที่จะเปิด Positon ในคู่นี้
การข้ามสกุลเงิน หรือ Cross
Cross คือคู่ที่ไม่มีดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนักเทรดบางรายอาจไม่รวมคู่เหล่านี้ในชุดของสกุลเงินหลัก ซึ่งในบทความนี้อาจถือเป็น สกุลเงินหลักในบางครั้ง เนื่องจากมีการเทรดที่สูง ได้แก่ GBP/EUR EUR/CHF EUR/JPY ซึ่งเป็นคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องมากที่สุด เนื่องจากเป็นการผสมผสานกันของสกุลเงินดั้งเดิม
การเทรด GBP/EUR
GBP/EUR เป็นคู่สกุลเงินหลักที่ใช้ดูความสัมพันธ์ GBP/EUR ที่มีความผันผวนอย่างมาก นับตั้งแต่กรณี Brexi ชื่อเล่นของคู่สกุลเงินนี้เรียกกว่า 'chunnel' ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างสหราชอาณาจักรและยุโรปผ่าน Channel Tunnel ทั้งนี้GBP/EUR มีแนวโน้มที่จะทำกำไรทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจนกว่า Brexit จะสิ้นสุด
การเทรด EUR/CHF
เช่นเดียวกับ GBP/EUR หรือ USD/CAD คู่สกุลเงิน EUR/CHF สะท้อนถึงเศรษฐกิจของสองประเทศที่เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด ในบทความนี้ EUR/CHF อาจประเมินว่าเป็นคู่ที่ค่อนข้างคงที่เช่นเดียวกับสกุลเงินของสวิตเซอร์แลนด์
ตัวอย่างของเสถียรภาพของฟรังก์ที่เกี่ยวข้องกับเงินยูโรจากวิกฤตหนี้ยุโรปในปี 2551 ส่งผลให้เงินฟรังก์แข็งค่าขึ้นจากซื้อที่เพิ่มของของนักลงทุนเพื่อปกป้องเงินทุน
การเทรด EUR/JPY
ในฐานะที่เป็นสกุลเงินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ยูโรเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการจับคู่กับเงินเยน ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างมากจากปริมาณการซื้อขาย JPY รวมถึงความเชื่อมั่นของตลาด โดยช่วงที่ EUR/JPY มีสภาพคล่องมากที่สุดอยู่ระหว่าง 8.00 น.-15.00 น. (ตามเวลาสหราชอาณาจักร) อย่างไรก็ตาม แม้ EUR/JPY มีความผันผวนค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบแต่ยังมีพื้นที่พอที่จะทำกำไรได้
อะไรมีผลต่อราคาของคู่ forex?
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา forex ทุกคู่ อาทิ อัตราดอกเบี้ย ความไม่แน่นอนจากภูมิศาสตร์การเมืองโลก ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ และระดับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในประเทศ
อัตราดอกเบี้ย ถูกควบคุมโดยนโยบายการเงินของธนาคารกลางของสกุลเงินนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น หากธนาคารกลางสหรัฐฯ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมักจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรทำให้ราคาของ EUR/USD ลดลง โดยนักลงทุนมักจะนิยมประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า เนื่องจากนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าจากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ความไม่แน่นอนจากภูมิศาสตร์การเมืองโลก นักลงทุนและผู้ค้าสูญเสียความเชื่อมั่นในความสามารถของประเทศในการปกครองหรือแนวโน้มของเศรษฐกิจที่อาจตกต่ำได้ในอนาคตซึ่งอาจส่งผลให้สกุลเงินนั้นซบเซาหรือมีความผันผวนเกินกว่าจะซื้อขายได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความต้องการความเสี่ยงของผู้ซื้อขายแต่ละรายโดยผู้ค้าบางรายเลือกตลาดที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยเพื่อเป็นโอกาสในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาคู่สกุลเงินหลักมักไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวมากนัก แม้จะมีกรณี Brexit
FDI อาจส่งผลต่อราคาของคู่สกุลเงินเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ FDI สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มากขึ้นในเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศนั้น ๆ ในทางกลับกันก็สามารถเพิ่มความต้องการสำหรับสกุลเงินของประเทศนั้นซึ่งจะทำให้ราคาสูงขึ้นด้วย
ตัวอย่างเช่น หากมีการเพิ่มขึ้นของ FDI อย่างมีนัยสำคัญในเศรษฐกิจสหรัฐฯ มูลค่าของดอลลาร์สหรัฐก็อาจจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นที่จับคู่ด้วย
เพราะความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจของประเทศและระดับ FDI มักมีความสัมพันธ์กันโดยตรง
วิธีการเทรด คู่เงิน Forex ที่สำคัญ
- ศึกษาคู่สกุลเงินที่ต้องเทรด
- ทำการวิเคราะห์คู่ Forex ทั้งทางเทคนิคและพื้นฐาน
- เลือกกลยุทธ์การเทรดและตรวจสอบว่าคุณพอใจกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- จากนั้น สร้างบัญชีและฝากเงิน
- เปิด Monitor แล้วจึงปิด Position แรกของคุณ
ข้อมูลจากทีม Tradersthailand
