ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีในวันจันทร์หลังสหรัฐเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่ออกมาดีซึ่งตามมาด้วยคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในระยะสั้น รวมถึงผลประกอบการของธนาคารวอลล์สตรีทที่ออกมาอย่างน่าประทับใจก็หนุนความคาดหวังว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 0.15% อยู่ที่ 101.82 ออกจากระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีที่แตะในวันศุกร์ที่ 100.78 ซึ่งนับเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 เงินยูโรร่วงลง 0.2% สู่ระดับ 1.0965 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.22% สู่ระดับ 1.2387 ดอลลาร์
Tina Teng นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า "ผลประกอบการของธนาคารสหรัฐออกมาดีกว่าที่คาดไว้มาก ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้เลวร้ายนัก ดังนั้นฉันคิดว่าเฟดน่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป"
ขณะนี้ตลาดเงินกำลังวางโอกาส 81% ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดในเดือนหน้า เพิ่มขึ้นจากประมาณ 69% ในสัปดาห์ที่แล้ว
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้นหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเมื่อวันศุกร์ และยังคงเพิ่มขึ้นในวันจันทร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีอยู่ที่ 4.1137% หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ที่ 4.137% ในวันศุกร์ อัตราผลตอบแทนอายุ 10 ปีอยู่ที่ 3.5261%
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.16% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 133.96 ดอลลาร์ออสเตรเลีบขยับลง 0.19% อยู่ที่ 0.6696 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์นิวซีแลนด์ 0.39% อยู่ที่ 0.6186 ดอลลาร์
ในเอเชีย ข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมากจากจีนมีกำหนดเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์จาก MUFG กล่าว"เราคาดว่าข้อมูลกิจกรรมในเดือนมีนาคมจะแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่เร่งขึ้นในระดับปานกลาง แต่ไม่น่าจะเห็นเซอร์ไพรส์ในเชิงบวกมากนัก"
เงินหยวนนอกประเทศร่วงลงมากกว่า 0.1% มาอยู่ที่ 6.8807 ต่อดอลลาร์
แหล่งข่าว Dollar rebounds on higher expectations for Fed hike in May โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
