ราคาทองคำร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ในวันจันทร์ เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นและดอลลาร์ฟื้นตัวจากการลดลงบางส่วน แต่ยังยืนเหนือ 1,750 ดอลลาร์จากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในตลาด
ทองคำสปอตลดลง 0.5% มาที่ 1,751.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. ที่ 1,765.54 ดอลลาร์ในช่วงเซสชั่นเอเชีย ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐลดลง 0.4% สู่ระดับ 1,751.80 ดอลลาร์
Ricardo Evangelista นักวิเคราะห์อาวุโสของ ActivTrades กล่าวว่า แม้ราคาทองคำจะร่วงจากระดับสูงสุดในวันศุกร์เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัว แต่ทองคำอาจได้ประโยชน์จากความกังวลต่อวิกฤต Evergrande และราคาพลังงานที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจ้างงานถูกคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและทำให้เฟดประกาศการทำ Taper และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเพิ่มผลตอบแทนของพันธบัตรและส่งผลเสียต่อราคาทองคำในท้ายที่สุด
อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะเดียวที่ การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม แต่รายงานที่ปรับแล้วสำหรับอัตราเงินเฟ้ออ่อนค่าลง ตอกย้ำความคาดหมายว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สามจะชะลอตัวลง
Harshal Barot ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการวิจัยของ Metals Focus ในภูมิภาคเอเชียใต้กล่าวว่า "สิ่งที่เราเห็นคืออัตราเงินเฟ้อจะไม่อยู่เพียงระยะสั้นอย่างที่คิดในตอนแรกและอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อการเติบโต"
โลหะเงินร่วงลง 0.5% ที่ 22.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลตตินั่มร่วง 1.7% มาที่ 955.05 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมลดลง 1.4% มาที่ 1,891.36 ดอลลาร์
แหล่งข่าว Gold slips as dollar stems decline but clings above $1,750 โดย CNBC
แปลโดยทีม TradersThailand
