Jettarin.Su
Moderator
ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธเนื่องจากแพ็คเกจความช่วยเหลือทางการคลังของสหรัฐและความคาดหวังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกซึ่งจะทำให้อุปสงค์เพิ่มสูงขึ้น
ฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 27 เซนต์หรือ 0.6% สู่ระดับ 48.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ 01.14 GMT ขณะที่ ฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 24 เซนต์หรือ 0.5% สู่ 51.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ นำโดยพรรคเดโมแครตลงมติตามข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ในการเพิ่มการจ่ายเงินช่วยเหลือโควิด-19 เป็น 2,000 ดอลลาร์
หุ้นเอเชียปรับตัวลงในวันพุธ ขณะที่ ค่าเงินยูโรปรับตัวสูงขึ้นสูงสุดในรอบสองปีครึ่งเนื่องจากความหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะค่อย ๆ ฟื้นตัว
ราคาน้ำมันอาจเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากโครงการฉีดวัคซีนทั่วโลกซึ่งจะเริ่มในปีหน้า แต่ในระยะสั้นความกังวลเกี่ยวกับการปิดกั้นไวรัสโคโรนามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น
ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในสหราชอาณาจักรได้นำไปสู่การปรับเปลี่ยนข้อจำกัดการล็อคดาวน์อีกครั้ง ขณะที่ การรักษาในโรงพยาบาลและการติดเชื้อกำลังเพิ่มขึ้นในบางภาคส่วนของยุโรปและแอฟริกา
อนึ่ง ความต้องการเชื้อเพลิงอาจจะลดลงต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากประเทศต่างๆ พยายามจำกัดการปล่อยก๊าซเพื่อชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บริษัทน้ำมันรายใหญ่อย่าง BP Plc และ Total SE ได้เผยแพร่การคาดการณ์ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ที่อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกที่คาดว่าจุดพีคของมันอยู่ที่ปี 2562
OPEC + มีกำหนดการประชุมวันที่ 4 มกราคม โดยที่ผ่านมาได้มีมติลดกำลังการผลิตน้ำมันในปีนี้เพื่อสนุนตลาด และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มผลผลิต 500,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) ในเดือนมกราคม ในด้านรัสเซียสนับสนุนการเพิ่มขึ้นอีกครั้งในปริมาณเดียวกันในเดือนกุมภาพันธ์
แหล่งข่าว Oil rises on hopes of recovery in fuel demand โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
Attachments
Last edited by a moderator:
