ฟิวเจอร์น้ำมันเพิ่มขึ้นในวันอังคารและอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายปีเนื่องจากปัญหาอุปทานพลังงานยังคงเรื้อรัง ขณะที่สภาพอากาศที่หนาวเย็นลงในจีนกำลังสร้างความกังวลถึงอุปทานที่จะเพียงพอหรือไม่
เบรนท์เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ปิดที่ 85.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาซื้อขายล่วงหน้า WTI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ ปิดที่ 82.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนเบรนต์เพิ่มขึ้นประมาณ 19% และ WTI เพิ่มขึ้นที่ประมาณ 21%
"ความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน กระตุ้นให้มีการดึงสินค้าคงคลังจำนวนมากและผลักดันราคาให้สูงขึ้น" หลุยส์ ดิกสัน นักวิเคราะห์ตลาดน้ำมันอาวุโสของ Rystad Energy กล่าว "ความตึงตัวของตลาดนี้คาดว่าจะขยายไปถึงเกือบตลอดปี 2565 ทั้งนี้ อุปสงค์จะสอดคล้องกับอุปทานภายในไตรมาสที่สี่ของปีหน้าเท่า"
สภาพอากาศที่หนาวเย็นได้เริ่มปกคลุมประเทศจีนแล้ว โดยคาดว่าจะมีอุณหภูมิเกือบเยือกแข็งสำหรับพื้นที่ทางตอนเหนือ ตามรายงานของ AccuWeather.com
มีการคาดการณ์ว่าราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติในเอเชียที่พุ่งสูงขึ้นจะทำให้ผู้ใช้ปลายทางบางรายเปลี่ยนไปใช้น้ำมันที่มีต้นทุนต่ำกว่าเป็นทางเลือก
ในบราซิล บริษัทน้ำมัน Petrobras ของรัฐออกมายอมรับว่าไม่สามารถตอบสนอง "ความต้องการที่ผิดปกติ" จากผู้จัดจำหน่ายเชื้อเพลิงในเดือนพฤศจิกายน
ในสหรัฐ สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อ้างจากแหล่งข่าวในตลาดที่อ้างถึงตัวเลขของสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกาเมื่อวันอังคาร สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ต.ค. สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 3 ล้านบาร์เรล
แหล่งข่าว Oil remains near multi-year highs as energy crunch persists โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand