ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันจันทร์จากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ในสหรัฐและจีน แม้จะมีความกังวลด้านอุปทานจากการที่ OPEC+ ปรับลดการผลิตและสหรัฐตุนปริมาณสำรอง
สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 62 เซนต์หรือ 0.84% อยู่ที่ 73.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐอยู่ที่ 69.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 56 เซนต์หรือ 0.8% ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาซื้อขายทั้งสองลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ซึ่งยาวนานมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 จากความกังวลต่อการถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐเนื่องจากการผิดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
Tina Teng นักวิเคราะห์ของ CMC Markets กล่าวว่า "ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มอุปสงค์ที่ซบเซา เนื่องจากการฟื้นตัวหลังการเปิดประเทศเป็นไปอย่างเป็นหลุมเป็นบ่อ"
ความคิดเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับ Tony Sycamore นักวิเคราะห์ IG ซึ่งกล่าวว่า "การฟื้นตัวหลังการเปิดประเทศยังเป็นไปอย่างไม่สม่ำเสมอ กอปรกับความกังวลว่าสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะชะลอตัวและความเสี่ยงที่อาจผิดชำระหนี้ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในตลาดน้ำมันยังคงน้อยอยู่”
ความกังวลที่กล่าวมานี้กำลังบดบังต่ออุปสงค์ที่ตึงตัว OPEC+ กำลังประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันอย่างต่อเนื่อง โดยสมาชิกบางรายระบุว่าจะมีการลดกำลังการผลิตลงอีกราว 1.16 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งนั่นจะทำให้การลดกำลังผลิตทั้งหมดจะอยู่ที่ 3.66 ล้านบาร์เรลต่อวันตามการคำนวณของรอยเตอร์
ในด้านเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานกล่าวกับฝ่ายนิติบัญญัติเมื่อวันพฤหัสบดีว่าสหรัฐอาจเริ่มซื้อคืนน้ำมันดิบเพื่อเติมเข้าใน Strategic Petroleum Reserve (SPR)
ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุว่ากลุ่มประเทศของ G7 อาจประกาศมาตรการฉบับใหม่ที่เกี่ยวข้องกับประเทศที่ 3 ของการคว่ำบาตรในการประชุมวันที่ 19-21 พฤษภาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายการผลิตพลังงานในอนาคตของรัสเซียและควบคุมการค้าที่สนับสนุนกองทัพรัสเซีย
แหล่งข่าว Oil falls as economic concerns offset prospect of tighter supplies โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand