ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวแบบผสมในวันอังคาร (17/01/2023) หลังจากจีนเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษ แม้มีแนวโน้มเชิงบวกจากการคลายมาตรการควบคุมที่เข้มงวดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.2% อยู่ที่ 84.62 ดอลลาร์ ฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลง 1% ในช่วงก่อนหน้า สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 60 เซนต์หรือ 0.8% อยู่ที่ 79.26 ดอลลาร์จากจุดปิดของวันศุกร์
นักวิเคราะห์ของ ANZ commodity ระบุว่า "ราคาน้ำเบรนต์เพิ่มขึ้นราว 10% ตลอดช่วง 10 วันที่ผ่านมาจากมุมมองเชิงบวกต่อมาตรการของจีน อย่างไรก็ตามแนวโน้มทั่วโลกนั้นยังไม่แน่นอน"
ANZ ยังชี้ไปที่การอุปทานน้ำมันดิบของรัสเซียที่เพิ่มขึ้น โดยการส่งออกผ่านพื้นทะเลเพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน
ในด้าน GDP ของจีนในปี 2022 ขยายตัวที่ 3% พลาดจากเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งไว้ที่ 5.5% และยังเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุดครั้งที่สองนับตั้งแต่ปี 1976
ข้อมูลเมื่อวันอังคารยังแสดงให้เห็นว่าผลผลิตของโรงกลั่นน้ํามันของจีนในปี 2022 ลดลง 3.4% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงประจําปีครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2001 ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันในเดือนธันวาคมรายวันเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นอันดับสองของปี 2022
"กิจกรรมเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2022 นั้นแข็งแกร่งกว่าที่เราคาดไว้ บวกกับสัญญาณของการใช้จ่ายค้าปลีกที่แข็งแกร่งขึ้น จึงส่งผลให้แนวโน้มการเติบโตของ GDP ในปี 2023 จึงดีขึ้นเมื่อเทียบกับแนวโน้มก่อนหน้าของเรา" Iris Peng หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของจีนแผ่นดินใหญ่จากธนาคาร ING ทั้งนี้เธอยังเตือนว่ายังมีความท้าทายจากแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐและยุโรปในปีนี้
ในการสํารวจที่เผยแพร่ในการประชุมสุดยอดประจําปีดาวอสพบว่าสองในสามของนักเศรษฐศาสตร์ภาคเอกชนและภาครัฐที่สํารวจคาดว่าจะเกิดภาวะถดถอยทั่วโลกในปีนี้โดยประมาณ 18% พิจารณาว่า "เป็นไปได้มาก"
นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของเงินดอลลาร์จากระดับต่ําสุดในรอบเจ็ดเดือนยังสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ํามัน เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทําให้น้ํามันมีราคาแพงขึ้นสําหรับผู้ที่ถือสกุลเงินอื่น
แหล่งข่าว Oil mixed amid weak China economic data, sustained hopes for 2023 โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
