ปัจจุบันสหรัฐอเมริกาส่งออกน้ำมันมากกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากชายฝั่งของสหรัฐฯ ด้วยความต้องการเชื้อเพลิงโดยรวมที่ฟื้นตัวจนถึงระดับก่อนเกิดโรคระบาด ผู้กลั่นน้ำมันจึงต้องแสวงหาแหล่งอุปทานเพื่อชดเชยจากความเสียหายกว่า 250,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd)
Exxon Mobil และ Placid Refining Co เผยว่ามีการรับน้ำมันจาก U.S. Strategic Petroleum Reserve (SPR) เพื่อตอบสนองความต้องการน้ำมันดิบเปรี้ยวอย่างทันท่วงที
เมื่อต้นเดือนนี้ ราคาน้ำมันดิบของ Mars ซื้อขายได้สูงถึง 1.50 ดอลลาร์เหนือ WTI แต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมามีการเสนอส่วนลด 2.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลสำหรับ Benchmark ของสหรัฐฯ ทำให้กลับสู่ระดับก่อนเกิดพายุ ขณะที่ โรงกลั่นส่วนใหญ่ของสหรัฐที่หยุดการผลิตจากไอดาได้กลับมาผลิตแล้ว
Refiner Marathon Petroleum จัดซื้อ Basrah สำหรับเดือนตุลาคมผู้ค้ารายหนึ่งกล่าว และยังมีความสนใจที่จะนำเข้าน้ำดับเกรดจากแคนาดาและละตินอเมริกาด้วย ข้อมูลเบื้องต้นของการบริหารข้อมูลด้านพลังงานของสหรัฐจนถึงวันอังคารแสดงให้เห็นว่าการนำเข้าจากเม็กซิโกและบราซิลเพิ่มขึ้นหลังจากเกิดพายุ
จากความเสียหายกว่า 250,000 บาร์เรลต่อวันที่เกิดขึ้นในชายฝั่ง เริ่มมีผลต่อตลาดในเอเชียด้วย Matt Smith นักวิเคราะห์น้ำมันของ Kpler ระบุว่า เกาหลีใต้มีสัดส่วนการส่งออกไปยังชายฝั่งประมาณสองในสามของปีนี้แล้ว ขณะที่ Unipec ของจีนและ South Korea Energy เพิ่มการซื้อก่อนเกิดพายุเพื่อใช้ประโยชน์จากราคาที่ดี
เมื่อเร็วๆ นี้ Unipec ซื้อน้ำมันดิบ Urals ของรัสเซียจำนวน 200,000 ตันสำหรับการส่งมอบในเดือนตุลาคม ท่ามกลางความแตกต่างของราคาในวงกว้าง
GS Caltex Corp ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของเกาหลีใต้ ยกเลิกการขนส่งสินค้าบนชายฝั่ง ซึ่งคาดว่าจะมาถึงในปลายเดือนพฤศจิกายน โดยที่บริษัทยังไม่ได้มองหาน้ำมันดิบทดแทน Sinopec และ GS Caltex ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Unipec ไม่ได้ตอบกลับคำขอความคิดเห็น
แหล่งข่าว U.S. oil refiners use Iraqi, Canadian crudes to replace storm losses -traders โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
