Jettarin.Su
Moderator
ยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้นในเดือนกันยายนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่แข็งแกร่ง แต่การฟื้นตัวจากภาวะถดถอยอาจต้องหยุดลงเนื่องจากเงินของรัฐบาลหมดลง ขณะที่ บรรดาบริษัทยังคงเลิกจ้างคนงานต่อเนื่อง อีกทั้ง จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่ข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลง นอกจากนี้ ภาคการผลิตก็ลดลงเกินคาดการณ์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
Gus Faucher หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ PNC Financial คาดการณ์ว่า ยอดขายจะชะลอตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้ และในปีหน้า และจะมากขึ้นหากสภาคองเกรสไม่ผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ รวมทั้ง การว่างงานที่ยังคงเพิ่มขึ้นทั่วสหรัฐฯ
ยอดการค้าปลีกในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.9% สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์จากการสำรวจโดย Reuters ที่ 0.7% ซึ่งต่อเนื่องจากเดือนสิงหาคมที่เพิ่มขึ้น 0.6%
การเติบโตดังกล่าวมาจากผู้บริโภคซื้อยานยนต์และเสื้อผ้า รับประทานอาหารนอกบ้านและทำงานอดิเรกเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ ภาคเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เติบโตถึง 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงในเดียวของปีที่ผ่านมา
นักเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ว่า ความแข็งแกร่งของยอดค้าปลีกเกี่ยวข้องกับโดยตรงกับเงินช่วยเหลือรายสัปดาห์ที่จ่ายให้กับชาวอเมริกันที่ตกงานหลายสิบล้านคน และตอกย้ำความคาดหวังสำหรับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เป็นประวัติการณ์และการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สาม
นอกจากนี้ ยอดขายปลีกทางออนไลน์และสั่งซื้อทางไปรษณีย์เพิ่มขึ้น 0.5% ยอดขายในร้านเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้น 0.5% ยอดขายสินค้ากีฬา งานอดิเรก เครื่องดนตรี และร้านหนังสือดีดตัว 5.7% โดยหมวดหมู่ดังกล่าวนี้เติบโตอย่างมากเมื่อกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์บางคนเชื่อว่า การประหยัดในอดีตสามารถรองรับการใช้จ่ายของผู้บริโภคในกรณีที่ไม่มีความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติมจากรัฐบาล ขณะที่ คนอื่น ๆ เตือนว่า การติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นและการตกงานอาจทำให้ผู้บริโภคบางส่วนลดการใช้จ่ายและประหยัดเงินมากขึ้น
แหล่งข่าว U.S. retail sales blow past expectations; outlook cloudyโดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
Last edited by a moderator:
