Jettarin.Su
Moderator
สถานการณ์น้ำมันไม่เอื้ออำนวย ข่าวจากทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานสร้างแรงกดดันต่อราคาลดลง 3% ในวันจันทร์สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นผลักให้ราคาน้ำมันดิบดิ่งจมลงอย่างรวดเร็ว (ในระยะสั้น) ราคา WTI อยู่ที่ 25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ Brent อยู่ที่ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
จากข้อมูลรายสัปดาห์ของสัปดาห์ที่แล้วเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 14 สัปดาห์ โดย 4.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่ การผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 11.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
รายงานฉบับดังกล่าวยังเน้นย้ำถึงภัยคุกคามของภาวะล้นตลาดเนื่องจากการเติบโตของการผลิตและปริมาณสำรองที่ใกล้กับระดับที่เคยเป็นประวัติการณ์
ในวันศุกร์ Baker Hughes รายงานการเพิ่มขึ้นของแท่นขุดเจาะน้ำมันเป็น 221 (+10 ต่อสัปดาห์) และ 296 (น้ำมัน + ก๊าซ) สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพลวัตเชิงบวกซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติของชาวอเมริกันที่จะเพิ่มการผลิตในอีกหกเดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ โอเปคลิเบียยังรายงานการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 0.8 ล้านบาร์เรลต่อวันและยืนยันแผนการที่จะกลับมาผลิตมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า การเพิ่มขึ้นนี้จะบังคับให้ประเทศในกลุ่มโอเปคอื่น ๆ ต้องลดกำลังการผลิตลงบางส่วนโดยเรียกร้องเงินสนับสนุนจำนวนมากที่สุดจากซาอุดีอาระเบียและอิหร่าน
นอกจากนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในยุโรปและล็อคดาวน์ในภูมิภาคยังสร้างผลกระทบเชิงลบต่อแผนเดิมที่จะเพิ่มโควต้าการผลิตในช่วงปลายปี และอาจลดลงอีกหากสถานการณ์ยังคงเลวร้าย
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันยังคงตกต่ำต่อเนื่อง น้ำมันดิบ Brent และ WTI ลดลงต่ำกว่าระดับต่ำสุดของเดือนกันยายน และต้นเดือนตุลาคม ซึ่งแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม
ในตลาดหุ้นน้ำมันดิบทั้งสองต้องเผชิญแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นหลังจากร่วงลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 200-วัน เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าผู้เล่นรายใหญ่ได้หันหลังให้แนวคิดปรับสมดุลอุปสงค์และอุปทานแล้ว แรงกดดันรอบใหม่อาจส่งราคาน้ำมันเข้าสู่พื้นที่ Consolidation เช่นในอดีต
แหล่งข่าว Slippery slope for Crude Oil โดย The FxPro Analyst Team
แปลโดยทีม TradersThailand