ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ของสหรัฐร่วงลง 12 เซนต์หรือ 0.2% สู่ 78.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเพิ่มขึ้น 2.3% ในวันก่อนหน้า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วง 32 เซนต์หรือ 0.4% สู่ 81.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเพิ่มขึ้น 3.3% ในวันอังคาร
“ความพยายามประสานงานของประเทศผู้บริโภคน้ำมันเพื่อลดราคาน้ำมันดิบ กระตุ้นให้มีการเทขายใหม่” คาซูฮิโกะ ไซโตะ หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Fujitomi Securities Co Ltd เสริมว่าความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวในยุโรป ท่ามกลางการฟื้นตัวของการระบาดยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นด้วย
สหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า จะปล่อยน้ำมันหลายล้านบาร์เรลจากแหล่งสำรองเชิงกลยุทธ์ร่วมกับจีน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร หลังจาก OPEC+ เพิกเฉยต่อการเรียกร้องให้เพิ่มอุปทานมาหลายครั้ง
สินค้ากลั่นของสหรัฐลดลง ตามแหล่งข่าวในตลาดที่อ้างถึงตัวเลขของสถาบัน American Petroleum Institute เมื่อวันอังคาร สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 พ.ย. เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงประมาณ 500,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นประมาณ 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล
ถึงกระนั้น นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่าผลกระทบต่อราคาของความร่วมมือดังกล่าวน่าจะอยู่ได้ไม่นาน นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs กล่าวว่า ความร่วมมือนั้นอาจเพิ่มอุปทานน้ำมันดิบได้ประมาณ 70-80 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 100 ล้านบาร์เรล
Louise Dickson นักวิเคราะห์ตลาดน้ำมันอาวุโสของ Rystad Energy กล่าวว่า "อุปทานที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้นจะทำให้ตลาดคลายตัวลงในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า แต่การเบิกปริมาณสำรองจนหมดนั้นก็อาจจะสร้างความตึงเครียดการจัดสรรหาน้ำมันได้ในภายหลัง”
แหล่งข่าว Oil prices drop as coordinated reserve release eases some supply fears โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand