ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในช่วงเช้าของวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนสะท้อนการตัดสินใจของเฟดสหรัฐที่เริ่มพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และหลังการสร้างสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดอย่างน่าประหลาดใจ สัญญาฟิวเจอร์ส Brent ร่วง 12 เซนต์หรือ 0.15% สู่ระดับ 81.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐลดลง 17 เซนต์หรือ 0.22% สู่ระดับ 77.74 ดอลลาร์ ลอรี โลแกน ประธานธนาคารกลางสหรัฐดัลลาส ยังคงกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงขาขึ้นของอัตราเงินเฟ้อแม้จะผ่อนคลายลงก็ตาม โดยเตือนว่าธนาคารกลางสหรัฐจำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นและทางเลือกไว้ ในขณะที่ธนาคารเฝ้าดูข้อมูลและกำหนดวิธีตอบสนอง
ขณะเดียวกันสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.2 ล้านบาร์เรลสู่ 454.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ค.เทียบกับการคาดการณ์ในการสำรวจของรอยเตอร์ว่าจะออก 1.9 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันเบนซินในสหรัฐเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับความคาดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นก่อนช่วงสุดสัปดาห์วันทหารผ่านศึกอันยาวนาน ซึ่งส่งสัญญาณถึงการเริ่มต้นฤดูกาลขับรถในฤดูร้อน EIA ระบุสต็อกเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์นี้แตะ 228.8 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะดึงออกมาที่ 400,000 บาร์เรล ส่วน OPEC+ กำลังทำข้อตกลงในการประชุมในวันอาทิตย์ช่วยให้กลุ่มสามารถขยายการลดการผลิตน้ำมันบางส่วนไปจนถึงปี 2568 องค์กร OPEC+ กำลังลดกำลังการผลิตลง 5.86 ล้านบาร์เรลต่อวัน เท่ากับประมาณ 5.7% ของความต้องการทั่วโลก
แหล่งข่าว Oil falls as Fed policymakers look to maintain rate cuts, gasoline stocks rise โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand