ราคาน้ำมันลดลงน้อยลงในวันพุธเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ทั่วโลกจากโมเมนตัมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในจีนและการเพิ่มขึ้นของสต๊อกของสหรัฐมีมากกว่าความกังวลด้านอุปทานจากความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นในตะวันออกกลาง สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมัน Brent เดือนมิถุนายนลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.44% สู่ระดับ 89.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่สัญญาฟิวเจอร์น้ำมันสหรัฐ WTI สำหรับเดือนพฤษภาคมลดลง 48 เซนต์ หรือ 0.56% สู่ระดับ 84.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุน และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยตลาดจับตาดูว่าอิสราเอลจะตอบสนองต่อการโจมตีของอิหร่านในช่วงสุดสัปดาห์อย่างไร
ในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก เศรษฐกิจเติบโตเร็วกว่าที่คาดไว้ในไตรมาสแรก แต่ตัวชี้วัดเดือนมีนาคมหลายรายการรวมถึงการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม แสดงให้เห็นว่าอุปสงค์ในประเทศยังคงอ่อนแอโดยส่งผลกระทบต่อโมเมนตัมโดยรวมและสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นเกินคาด ในตะวันออกกลางการประชุมคณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอลครั้งที่สามเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการตอบโต้การโจมตีครั้งแรกของอิหร่านถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันพุธ ในขณะที่พันธมิตรตะวันตกจับตาดูการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อเตหะรานเพื่อช่วยห้ามปรามอิสราเอล อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ไม่คาดหวังว่าอิหร่านจะโจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธและโดรนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อกระตุ้นให้เกิดมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ต่อการส่งออกน้ำมันของอิหร่านจากฝ่ายบริหารของไบเดน ขณะเดียวกันรัฐบาลสหรัฐอาจบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันต่อเวเนซุเอลาอีกครั้งในวันพฤหัสบดี ซึ่งอาจทำให้อุปทานในตลาดตึงตัวขึ้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่าราคาอาจมีการซื้อขายแบบไซด์ไซด์ในระหว่างนี้ เนื่องจากปัจจัยขับเคลื่อนตลาดในปัจจุบัน การเคลื่อนไหวของราคา WTI ในระยะสั้นมีแนวโน้มที่จะติดอยู่ในกรอบด้านข้างระหว่าง 83.20 ถึง 87.70 ดอลลาร์ เนื่องจากปัจจัยที่ขัดแย้งกัน เช่น ยอดค้าปลีกของจีนที่น่าผิดหวังในเดือนมีนาคม และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงไม่เปลี่ยนแปล
แหล่งข่าว Oil prices dip as demand worries outweigh Mideast supply fears โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
