ดัชนีหุ้นหลัก 3 ดัชนีของวอลล์สตรีทปิดลงในวันพฤหัสบดี โดยกลุ่มหุ้นธนาคารเป็นตัวสร้างแรงกดดันต่อตลาดมากที่สุด
ขณะที่นักลงทุนยังกังวลว่ารายงาน NFP ที่จะออกมาวันศุกร์อาจทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อ
ดัชนีกลุ่มธนาคารใน S&P 500 ปิดลง 6.6% หลังจากแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม หลังจาก SVB Financial Group เปิดขายหุ้นเพื่อหนุนงบดุลเนื่องจากเงินฝากที่ลดลง ดัชนี Nasadaq ปิดลงมากกว่า 2% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดาวโจนส์ลดลงราว 2%
ผู้ค้าวางโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 50 จุดในการประชุมของเฟดในเดือนมีนาคมอยู่ที่ประมาณ 60% ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 31% ก่อนที่พาวเวลล์จะส่งสัญญาณในวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมา
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 21,000 รายเป็น 211,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 มี.ค. เทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 195,000 ราย ขณะที่รายงาน NFP ของเดือนกุมภาพันธ์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่งหลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างเหนือคาดในเดือนมกราคมที่ 517,000
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 543.54 จุด หรือ 1.66% อยู่ที่ 32,254.86 ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 73.69 จุด หรือ 1.85% อยู่ที่ 3,918.32 และดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลง 237.65 จุด หรือ 2.05% อยู่ที่ 11,338.36
ปัจจัยฉุดที่ใหญ่ที่สุดใน S&P 500 มาจากภาคการเงิน ตามด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยดัชนีกลุ่มการเงินปิดลง 4% ซึ่งเป็นร่วงลงในรอบหนึ่งวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020
Signature Bank ร่วงลง 12% ราคาอยู่ที่ 90.76 ดอลลาร์ หลังจาก Silvergate Capital Corp ซึ่งเป็นธนาคารคริปโต เผยแผนการเลิกกิจการ หุ้น Silvergate ร่วง 42% เหลือ 2.84 ดอลลาร์
แหล่งข่าว Wall St falls on bank stocks tumble, jobs report jitters โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
Last edited:
