Jettarin.Su
Moderator
หุ้นเริ่มสัปดาห์โดยได้รับการปกป้องจากการที่นักลงทุนประเมินโอกาสในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเงินของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ เงินปอนด์เพิ่มขึ้นเนื่องจากการขยายระยะเวลาของการเจรจา Brexit
ความคืบหน้าของวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนากระตุ้นให้เกิดความสนใจในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง โดยการจัดส่งวัคซีนครั้งแรกจะเร่งไปทั่วสหรัฐฯ จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม
ฟิวเจอร์ส E-Mini สำหรับ S&P 500 ขานรับ เพิ่มขึ้น 0.5% ขณะที่ ฟิวเจอร์สพันธบัตรกระทรวงการคลังเดือนมีนาคมร่วงลง 4 จุด EUROSTOXX 50 ฟิวเจอร์สเพิ่ม 0.5% และฟิวเจอร์ส FTSE 0.1%
ดัชนี MSCI ของหุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นขยับขึ้น 0.1% ซึ่งทำสถิติสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้ว Nikkei ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.5%
สเตอร์ลิงแข็งค่าขึ้นทั้งกับเงินยูโรและดอลลาร์หลังจากที่ขยายเวลาการเจรจา Brexit ออกไปจนกว่าจะถึงกำหนดในวันอาทิตย์
เมื่อเทียบกับดอลลาร์เงินปอนด์เพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับ 1.3321 ดอลลาร์และห่างจากระดับปิดของวันศุกร์ที่ 1.3222 ดอลลาร์ ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.5% มาอยู่ที่ 91.09 เพนนี จากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ 92.29
ความเสี่ยงของ FED TWIST
นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าได้เข้าสู่ช่วงขาลงของวัฏจักร เนื่องจากความคาดหวังของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ขับเคลื่อนด้วยวัคซีนจะช่วยลดความจำเป็นในการหลบภัยต่อความเสี่ยง เงินยูโรเพิ่มขึ้น 0.2% ในวันจันทร์ที่ 1.2134 ดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 31 เดือน ล่าสุดที่ 1.2177 ดอลลาร์ ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 90.797 ใกล้กับระดับ 90.471 ล่าสุด
อุปสรรคเพิ่มเติมสำหรับดอลลาร์ คือ การประชุมนโยบายของเฟดในวันที่ 15-16 ธันวาคม โดยตลาดคาดว่า เฟดจะปรับเปลี่ยนแนวทางล่วงหน้าเกี่ยวกับนโยบาย แทนการซื้อพันธบัตรมากขึ้นหรือ " TWIST" พอร์ตการลงทุนเพื่อเพิ่มหนี้ที่มีอายุยาวขึ้น แต่หากเฟดทำการเซอร์ไพรส์บางอย่างพันธบัตรคลังอาจปรับตัวขึ้นและดอลลาร์สหรัฐอาจร่วงลง
และกระแสที่ทวีความรุนแรงขึ้นคือความคาดหวังของข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังจากที่พรรคเดโมแครตบอกว่าอาจประนีประนอมเพื่อให้ข้อตกลงผ่านไปได้ ในด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แผนบรรเทาทุกข์มูลค่า 908,000 ดอลลาร์จะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนเพื่อให้ได้รับการอนุมัติและสามารถเปิดตัวได้เร็วที่สุดในวันจันทร์
ราคาทองคำลดลงที่ 1,836 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ราคาของมันเพิ่มขึ้นแล้ว 21% ในปีนี้
ราคาน้ำมันขยับสูงขึ้นในวันจันทร์เป็นเวลาหกสัปดาห์ติดต่อกันเนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของโลกในปีหน้า
น้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 33 เซนต์ ปิดที่ 46.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ สู่ระดับ 50.36 ดอลลาร์
แหล่งข่าว Stocks hold out hope for vaccine-led recovery, U.S. stimulus โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
